top of page

พระเตมีใบ้

เนื้อเฮื่อง

พระเจ้ากาสีกับนางจันทาเทวีเป็นผู้ปกบ้านครองเมือง ซื่อว่าเมืองพาราณสี อยู่กันได้เหิงนานแล้วกะบ่มีพระราชโอรสพระราชธิดาเลย นางจันทาเทวีกะเลยได้ตั้งสัจจะอธิษฐานรักษาศีลอุโบสถ หวังสิได้พระโอรสพระธิดา ผู้มีบุญญาบารมีแก่กล้ามาเกิดนำ ย้อนว่าเดซาผลานิสงส์ฮักษาศีลอุโบสถ เฮ็ดให้ม่องนั่งบัลลังค์ท้าวองค์อินทาเทวราชเกิดฮ้อนฮนขึ้น ท้าวสักกะกะเลยสอดส่องทิพยญาณลงมาเบิ่งว่าเกิดอีหยังขี้นในเมืองมนุษย์ จั่งได้ฮู้ว่า นางจันทาเทวีฮักษาศีลอุโบสถอธิษฐานอยากได้พระโอรสพระธิดาผู้มากด้วยบุญบารมี ท้าวสักกะกะเลยไปทูลอาราธนาพระโพธิสัตว์เจ้า ผู้เนายั้งนั่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ให้จุติลงไปปฏิสนธิในครรภ์นางจันทาเทวี บ่โดนพระนางจันทาเทวีกะมานลูก พระเจ้ากาสีพร้อมกับชาวเมืองต่างพากันยินดีปรีดา พอแต่ฮอดมื้อประสูติกาล ฟ้าฝนตกต้องไปทั่วเขตแคว้นแดนเมือง รุกขชาติสาขาพากันแตกดอกออกใบจ่อจีจูมงาม จั่งได้พระนามว่า เตมี หมายความว่า ผู้เฮ็ดให้เกิดความซุ่มเย็น ผิวพรรณวรรณะพระองค์กะโฉมเฉลาเกลาเกลี้ยงดี มีแม่นม ๖๔ คน  คอยถ่าเบิ่งแงง อายุได้เดือนหนึ่ง พระโอรสบรรทมเทิงตักของพระบิดาที่กำลังตัดสินนักโทษ เฮ็ดให้พระองค์คึดย้อนอดีตชาติปางกี้เก่าหลัง ตั้งแต่ยังเป็นกษัตริย์ปกบ้านครองเมืองอยู่ ๒๐ ปี ได้ลงโทษประหารชีวิตตน จนต้องตกนรกอยู่หลายกัปหลายกัลป์ พระองค์ฮุ่มฮ้อนในใจบ่อยากครองราชย์ต่อจากพระบิดา หาทางสิพ้นให้ได้ มีนางฟ้าผู้หนึ่งอดีตชาติเคยเป็นแม่ของพระองค์ ยามนี้ยังนำมาฮักษาพระองค์อยู่คือเก่า ได้บอกวิธีการอยู่ ๓ อย่าง กะคือ ให้เป็นหง่อย หูหนวก แล้วกะเป็นใบ้ จั่งสิพ้นภยันตรายไปได้

  พระเตมีปฏิบัตินำทำตามทุกอย่าง ตั้งแต่ปากกืก หูหนวก เป็นใบ้ ง่อยเปลี้ย ไผอุ้มไปวางไว้ไสกะ     บ่ตีงคีงร่าง พระบิดาเกิดสงสัยว่าแต่ก่อนนี้พระกุมารคือบ่เป็นจั่งสี้ เคยยิ้มแย้มแจ่มใสแต่ตอนนี้สังมาเงียบขึมซึมซาแท้ ไผเว้าหยังกะบ่ได้ยิน บางเทื่ออาจสิเป็นย้อนโรคฮ้ายกะได้ ว่าแล้วกะเอิ้นหมอหลวงให้มาเบิ่งอาการ แต่กะบ่พ่อแนวผิดปกติหยัง เลยลองให้พระเตมีอยู่หม่องสกปรกฮกหนา พระองค์กะทนได้ ยามหิวข้าวกะบ่ฮ้องไห้ ยามย่านกะมีอาการหยัง ย้อนว่าย่านมหันตภัยไฟนรกหลายกว่า พระบิดากะบ่มีแนวสิเฮ็ดแล้ว แต่อำมาตย์กะฮับอาสาว่าสิขอลองเบิ่งก่อน เทื่อแรกให้พระเตมีนั่งอยู่ในเฮือนแล้วจุดไฟเผา พระองค์กะบ่ย่าน เอาไปนั่งกลางลานปล่อยช้างตกมันใส่กะบ่ย่าน เฮ็ดจั่งซี่อยู่เป็นปี พระองค์กะเงียบขึมซึมซาอยู่คือเก่า ขนาดช้างเอาฮวงฮัดคีงยกขึ้นว่าสิฟาดเพิ่นกะบ่ย่าน ย้อนว่าเพิ่นอยากม้มบ่อยากเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ลองปล่อยงูมาฮัดเพิ่นกะนั่งซื่อ ๆ คอฮูปปั้น เฮ็ดจั่งซี่อยู่เป็นปี พระองค์กะบ่แสดงอาการอีหยังออกมา ต่อมากะลองให้คนถือดาบเข้ามาสิฟันกะบ่ย่าน ต่อมาให้เพิ่นนั่งอยู่องค์เดียวแล้วกะเฮ็ดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เพิ่นกะเฮ็ดคือจั่ง่ได้ยินหยัง เป็นจั่งซี่อยู่ ๗ ปี ตั้งแต่ ๙ พรรษา จน ๑๖ พรรษา ยามเป็นเด็กน้อยหนุ่งกุมมารคือสิมักใคร่ในกามารมณ์ พระบิดาเลยจัดให้หาผู้สาวมาเล้าโลมเฮ็ดไปสู่แนว บ่าสิกอดจูบลูบคลำ เปิดหม่องนั่นเปิดหม่องนี่ให้เบิ่งแน่ เพิ่นกะเฮ็ดโตบ่เดือดบ่ฮ้อนหยัง ไผสิเฮ็ดหยังเว้าหยัง เพิ่นกะบ่ปากบ่ตีงบ่ไห้บ่ฮ้อง คือเด็กน้อยผู้อื่น

  อายุได้ ๑๖ พรรษา โหรหลวงทวยทักว่าเพิ่นโตกาลกิณี ให้เอาไปฝังทั้งเป็น พระเจ้ากาสีกะยอมให้เฮ็ดตามโหรหลวง  นางจันทาเทวีขอเวลา ๗ มื้อ วิงวอนอ้อนขอให้พระเตมีเซาเฮ็ดโตพิการ แต่กะบ่มีผลหยัง พระเตมีเกิดสิโตนพระมารดา แต่ต้องอดทนเอาไว้ จนว่านายสุนันท์สารถีพาพระองค์ออกไปฝังนอกเมือง สารถีตั้งใจว่าสิพาไปออกทางประตูทิศตะเว็นตก แต่ไปออกทางทิศตะเว็นออก ไปจอดรถไว้กลางป่าใหญ่คิดว่าเป็นป่าช้า ขนเครื่องทรงพระเตมีวางลงแล้วกะก่นขุม พระเตมีเสด็จลงรถมาลองเบิ่งพละกำลัง จับรถม้ายกขึ้นเลยพระเศียรแล้วแก่ง แล้วตรัสกับสารถีว่าให้ไปบอกว่าพระองค์สิออกบวชอยู่ในป่า พระเจ้ากาสีกับพระนางจันทาเทวีฮู้เรื่องแล้วกะจัดขบวนเอิ้นชาวเมืองไปเข้าเฝ้าพระเตมีนำกัน พระเตมีดาบสเพิ่นกะแสดงธรรมสู่ฟัง พระเจ้ากาสีพระนางจันทาเทวีกัชาวเมืองเกิดศรัทธาอยากออกบวชอยู่นำ บ่ดนกะได้บรรลุสมาบัติ เบิดอายุขัยแล้วกะไปเกิดเทิงพรหมโลก

ตัวละคร  พระเตมีย์   ผู้ที่มีความอดทนตั้งมั่นในการทำเพื่อให้ตนเองพ้นจากทุกข์ 

 

ต้นฉบับ   จารุมุกด์  เรืองสุวรรณ ได้เรียบเรียงขึ้นใหม่เป็นภาษาไทยกลาง เพื่อให้ผู้อ่านอ่านเข้าใจง่าย ลงพิมพ์ใน “หนังสือพิมพ์ขอนแก่น” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง  ได้รับความนิยมมากจากผู้อ่านมาแล้วแต่ พ.ศ. ๒๕๑๙

พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี ชาดกเรื่องนี้ให้คติว่า คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องรู้จักรอเวลาและอดทนอย่างเพียรพยายามให้ถึงที่สุด และความพากเพียรอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่นั้น ย่อมนำบุคคลนั้นไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระเตมีย์ ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี

เนกขัมมบารมี คือ การมีจิตพร้อมในการปฏิบัติเนกขัมมะ  โดยถือศีลปฏิบัติธรรมเป็นปกติ  ถือบวชประพฤติตนออกจากกาม  ปลอดโปร่งจากสิ่งล่อใจ  เย้ายวนต่าง ๆ ที่เรียกว่า “กามารมณ์”  ซึ่งบำเพ็ญเข้มข้นขึ้นโดยลำดับ  มีเป้าหมายเพื่อสลัดออกจากกาม  เป็นอิสระจากกามทั้งสิ้นอาสวกิเลสในที่สุด

bottom of page