top of page

ท้าวกาฬเกษ

เนื้อเฮื่อง

จักกล่าวเถิงเบื้องพาราณสีเมืองใหญ่ มีกษัตริย์ไท้ออกซื่อท้าวสุริวงษ์  มีมเหสีซื่อว่านางเกษ เทิงสองพระองค์มีโอรสซื่อว่าท้าวกาฬเกษ เป็นองค์โพธิสัตว์มาซดซาติไซ้กรรม แล้วกะมีม้ามณีกาบเป็นม้าวิเศษคู่บารมี

อยู่มาฮอดมื้อหนึ่งท้าวกาฬเกษขี่ม้ามณีกาบเหาะออกจากเมืองไปทางป่าหิมพานต์ ซ่วงที่ออกจากเมืองนั้นท้าวกาฬเกษเลยได้พบพ้อกับนกสาฮิกาคู่หนึ่ง เลยฝากความไปว่าให้ไปทูลเสด็จพ่อสุริยวงษ์ว่า สิออกไปเที่ยวป่าหิมพานต์จัก 3 ปีจั่งสิหลบบ้านเมือเมือง พอแต่สั่งความแล้วกะเลยเดินทางไปต่อจนว่าฮอดเมืองผีมนต์ของท้าวผีมนต์กับนางมาลีทอง ท้าวกาฬเกษเลยพักอยู่นอกเมืองสาก่อนเลยพ้อคนฟันฟืนซาวบ้านซาวเมืองผีมนต์ ถามไถ่ได้ฮู้แจ้งเถิงลูกสาวท้าวผีมนต์ ซื่อว่านางมาลีจันทร์ เป็นญิงผู้งามคักเหลือหลาย  กะเลยพยามไปหานางอยู่สวนดอกไม้ พอแต่นางมาลีจันทร์มาซมสวนกะเลยได้พ้อกันกับท้าวกาฬเกษพอแต่ท่อนั้นต่างคนกะต่างมักกันตกฮอดยามกลางคืนกะจอบหลอยไปหากัน หลายมื้อลายคืนเข้า ท้าวผีมนต์ผู้เป็นพ่อนางมาลีจันทร์ ฮู้ความแล้วเลยเฮ็ดหอกยนต์ดักยิง ซ่วงที่ท้าวกาฬเกษลักไปหานั่นเอง ท้าวกาฬเกษได้ถืกหอกยนต์ยิง เลยตายใจขาด ก่อนสิตายได้สั่งความนางมาลีจันทร์ว่าอย่าเผาศพ ให้เอาใส่แพลอยลงในนทีแม่น้ำใหญ่ นางมาลีจันทร์กะเลยเฮ็ดตามที่เว้าสั่งความ แพเลยลอยทวนน้ำไปฮดอาศรมพระฤาษี พระฤาษีมาพ้อกะเลยเป่ามนต์คาถาซุบซีวิตให้ท้าวกาฬเกษฟื้นคืนมา พร้อมกันกะเลยได้ให้ดาบแก้วแลธนูวิเศษให้เป็นอาวุธคู่มือ  ท้าวกาฬเกษพอได้สิ่งวิเศษแล้วเลยได้กราบลาพระฤาษีหลบไปหานางมาลีจันทร์ ท้าวผีมนต์ฮู้เฮื่องแล้วกะเลยเกิดการฮบฮาฆ่าฟันกันขึ้น  ปรากฏว่าทหารยักษ์ทั้งหลายถืกฆ่าตายเบิดเกลี้ยง ยังเหลือแต่ท้าวผีมนต์ผู้เดียวได้ขอยอมแพ้ ท้าวกาฬเกษกะเลยใซ้ดาวแก้วกับธนูซุบซีวิตให้ซุมทหารทั้งหลาย ท้าวผีมนต์กะเลยยกบ้านเมืองให้ครอบครอง  แล้วกะยกลูกสาวคือนางมาลีจันทร์ ให้เป็นพระมเหสี 

ท้าวกาฬเกษครองเมืองอยู่บ่นานดน กะพานางมาลีจันทร์ออกเดินทางกลบบ้านเมือเมืองพาราณสี ระหว่างทางท้าวกาฬเกษได้พบกับนางยักษ์อันธพาล 3 ตน คือ ยักษ์สาระกัน ยักษ์คันธะยักษ์  แล้วกะยักษ์ขีนีสาระกาย เข้ามาขัดขวางการเดินทางแต่กะถืกท้าวกาฬเกษฆ่าตายแล้วกะ  ซุบซีวิตขึ้นมาใหม่ สอนสั่งให้เป็นคนฮู้ผู้ดี อยู่ในศีลกินในธรรม  บัดทีนี้ท้าวกาฬเกษกับนางมาลีจันทร์กะเลยพากันเดินทางต่อ จนมาฮอดป่าใหญ่ยามเดิกดื่น ท้าวกาฬเกษกะเลยพามิ่งเมียแก้วหาบ่อนนอนเซามีแฮง เลยไปนอนอยู่เคียงกกไม้ใหญ่กกหนึ่ง ทั้งคู่นอนหลับอยู่นั้น กะเลยมีนางกินรี 3 ตนเป็นลูกเลี้ยงของพระฤาษีมาพ้อเห็นท้าวกาฬเกษเป็นผู้บ่าวฮูปงาม  กะเลยเกิดความหลงใหลมักท้าวกาฬเกษ  นางทั้งสามกะเลยพากันเอาโตท้าวกาฬเกษหลบไปเมืองกินรีย้อนว่าอยากอยู่กินเป็นผัวเมียกัน  ตื่นเซ้ามามื้อใหม่ นางมาลีจันทร์บ่เห็นท้าวกาฬเกษเห็นแต่ม้ามณีกาบ กะเลยพากันออกนำหาท้าวกาฬเกษ หาท่อได๋กะบ่เห็น ม้ามณีกาบเลยบอกให้นางมาลีจันทร์อยู่ถ่าอยู่บ่อนกกไม้ใหญ่หั่น ส่วนจะของกะออกนำหาต่อไป  แต่ย้อนว่ากรรมคือการกระทำ กรรมเก่าที่ได้กระทำมาเฮ็ดให้ทั้งสาม ต้องมาพลัดหลงกัน คือว่า ท้าวกาฬเกษหลงใหลในความงามของนางกินรีเลยอยู่เมืองกินนร นางมาลีจันทร์กะออกนำหาตามยถากรรมของตน ส่วนม้ามณีกาบกะออกนำหานายของตนไปอีกทางหนึ่ง นางมาลีจันทร์ซัดเซพเนจรอยู่ในป่าอย่างเป็นตาซิโตน ส่วนทางพระอิศวรเห็นว่านางลำบากอยู่ทุกยาก อยู่ลำพัง กะเลยเสด็จลงมาฮับไปอยู่เมืองนำถ่าท้าวกาฬเกษอยู่หั่น ทางฝ่ายท้าวกาฬเกษพอแต่เบื่อนางกินรีเทิงสามพี่น้องกะคึดฮอดนางมาลีจันทร์ เลยได้หลอยหนีจากเมือง กินรีเทิงสามเลยไปเว้าเฮื่องสู่พ่อฟัง แต่กะบังเอิญว่าม้ามณีกาบกะอยู่อาศรมฤาษีเลยฮู้เฮื่องนำ ฮู้ว่าท้าวกาฬเกษออกจากเมืองกินนรแล้ว กะเลยนำก้นไปหานายของจะของจนพ้อกันแล้วจั่งได้พากันไปนำหานางมาลีจันทร์ต่อไป เทิงสองออกเดินทางมาฮอดเมืองของพระอิศวร กะเลยถามทหารผู้เฝ้าประตูอยู่หั่นจั่งฮู้ว่านางมาลีจันทร์มาถ่าอยู่นี่ดนแล้ว ฮู้จั่งซั่นท้าวกาฬเกษกะเลยควบม้าไปหาพระอิศวร เลยเว้าจาต้านเฮื่องฮาวเทิงเบิดสู่ฟัง แล้วกะฟ้าไปหานางมาลีจันทร์อยู่อุทยานทันที ท้ายที่สุดท้าวกาฬเกษกะเลยได้ฮับนางมาลีจันทร์ไปอยู่นำ ครองเมืองอย่างสงบสุข

ตัวละคร   ท้าวกาฬเกษ       เป็นคนดี มีคุณธรรม มีความเมตตา ในตอนที่ทำสงครามกับพวกยักษ์ ท้าวกาละเกิดไดฆ่าพวกยักษ์จนหมด แต่กลับ ช่วยชีวิตและอบรมสั่งสอนพวกยักษ์ให้อยู่ข้างธรรมมะ

                      นางมาลีจันทร์    เป็นหญิงที่มีความซื่อสัตย์ต่อสามี

                      ม้ามณีกาบ         เป็นม้าวิเศษมีความสามารถมาก มีความซื่อสัตว์ต่อท้าวกาฬเกษและนางมาลีจันทร์

ต้นฉบับ   เดิมเป็นต้นฉบับใบลานอักษรไทยน้อย ท่านเจ้าคุณอริยานุวัตรกล่าวไว้ในคำนำว่าได้ต้นฉบับมาจากวัดสว่างอารมณ์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด และได้ถอดออกเป็นอักษรไทยเผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศิริธรรม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ขนาดความยาว ๔๘๐ หน้า ในคำนั้นใช้กล่าวว่า “หนังสือกาละเกดนั้นชาวอีสานนิยมทุกยุคทุกสมัย มักมีไว้ประจำบ้านเรือนและวัดวาอาราม ซึ่งข้าพเจ้าได้ตรวจดูแล้วมีจำนวนหนักเบาตามความนิยม เห็นว่าสำนวนฉบับนี้พอฟังได้ และเป็นสำนวนเอกสำนวนหนึ่ง ” ซึ่งแสดงว่าเรื่องกาละเกดนี้เป็นที่นิยมอ่านกันโดยทั่วไป

พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี  วรรณกรรมเรื่องนี้เน้นให้เห็นคุณธรรมของกษัตริย์ โดยสื่อผ่านตัวท้าวกาฬเกษ นอกจากนั้นยังเน้นให้เห็นการซื่อสัตย์ต่อคนรัก การชดใช้กรรมเก่าซึ่งเป็นความเชื่อทางพุทธศาสนา และแสดงให้เห็นว่าผลแห่งธรรมครองโลก โลกจะพบสันติสุขอย่างแท้จริง ประชาคมจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

บันแต่ท้าวบรมหลวงกาละเกด                  เสวยอยู่สร้างเมืองกว้างชอบธรรม

อยู่สนุกล้นโยธาพลไพร่                                   ก็บ่ทุกข์ยากไร้สังแท้สำราญ

bottom of page