top of page

ท้าวผาแดง – นางไอ่

เนื้อเฮื่อง

ดนมาแล้ว เมืองสุวรรณโคมคำ (หรือเมืองเอกธีตา) มีพญาขอมเป็นเจ้าผู้ครองเมืองและมีพระมเหสีซื่อพระนางจันทร์ ทั้งสองพระองค์มีพระธิดาซื่อว่า นางไอ่คำ  เป็นแม่ญิงมีฮูปงาม ควมงามของนางคนส่าไปฮอดเมืองต่าง ๆ เฮ็ดให้เจ้าซายต่างเมืองทั้งหลาย กะอยากสิได้นางไอ่คำเป็นเมียเจ้าของ ท้าวผาแดงผู้เป็นเจ้าแห่งเมืองผาโพง คันได้ยินคำส่าเรื่องความงามของนางไอ่คำ กะเกิดมักในโตนางหลาย กะเลยคิดแผนสิผูกไมตรีกับนาง คึดว่าสิลอบส่งแก้วแหวนเงินคำพร้อมผ้าอย่างดีไปให้นาง นางไอ่คำกะยินดีฮับไว้แล้วส่งของมีค่าคืนให้ท้าวผาแดงคือกัน เทิงเซื้อเซิญเอิ้นท้าวผาแดงให้มาพ้อกับนางอยาเมืองเอกธีตานำ ทางท้าวผาแดงคันว่าได้คำเซิญจากนางไอ่คำกะหลอยขี่ม้าเข้าไปพ้อนางในเมือง ทั้งสองได้พ้อกัน เกิดควมฮักแพงกันแล้วได้ครองฮักกัน ท้าวผาแดงกะเลยให้คำมั่นว่าสิมาขอนางไอ่ให้ถืกตามฮีตตามคอง   

       

ว่าไปฮอดเมืองบาดาลศรีสัตนาคหุต มีพญานาคสุทโธนาคเป็นเจ้าผู้ครองเมือง และมีพระโอรสซื่อว่าท้าวภังคี  ท้าวภังคีมีควมผูกพันแต่อตีตาซาติกับนางไอ่คำ กะคือ  ในอตีตาซาตินั้นท้าวภังคีเกิดเป็นบ่าวคนทุกข์แล้วกะเป็นกืก เป็นขอทานนำบ้าน มื่อหนึ่งท้าวภังคีในอตีตาซาติได้มาขอทานจนฮอดบ้านเศรษฐีใจบุญ จั่งได้ขอเข้ามาอาศัยและซ่อยเฮ็ดงานอย่างเต็มใจและบ่เห็นแก่ความเมื่อยยาก เฮ็ดให้ท่านเศรษฐีเกิดควมฮักแพงหลานจนยอมยกลูกสาวเจ้าของให้กับบ่าวผู้นี้ แล้วว่าลูกสาวของเศรษฐีกะคือนางไอ่คำในซาตินี้ แต่ท้าวภังคีในอตีตาชาติเป็นบ่าวนิสัยบ่คือไผ ย้อนว่าแทนที่สิฮักแพงเมียเจ้าของคือผัวคนอื่น แต่เพิ่นบ่หัวซาแล้วกะบ่เคยฮ่วมหอกับเมียเลย แต่นางกะบ่เคยว่าฮ้ายหลือจ่มให้เลย  ซ้ำบ่หนำเฮ็ดนำผัวคือแนวว่าอย่างดีมาตลอด จนมื่อหนึ่งผู้บ่าวคึดฮอดบ้าน กะเลยลาท่านเศรษฐีและพาเมียออกท่องไปยามบ้านเกิด ท่านเศรษฐีผู้เป็นพ่อกะได้จัดเสบียงกับข้าวให้อย่างดี ให้ลูกสาวเจ้าของเป็นผู้คอนเสบียง  ละหว่างเดินทางที่ยากลำบาก ผู้บ่าวบ่เคยซ่อยหยังเมียเจ้าของเลย เฮ็ดผู้สาวเหมื่อยล้าเหมิดคีงเหมิดโตจนว่ากับข้าวที่เอาไปนำเหมิดลงกลางทาง คันผู้ซายเห็นต้นเดื่อลูกสุกเต็มต้น ย้อนว่าหิวแล้วกะเหมื่อยเมเข้ากะขึ้นไปเก็บกินต่างข้าว บ่ได้เก็บมาสู่เมียกินแม้แต่น้อย  ทางผัวฮั่งว่าเก็บกินบักเดื่อจนอิ่มกะลงมาจากต้นแล้วกะย่างหนีไป ทางเมียกะขึ้นต้นเดื่อหากินคือกัน แต่บัดลงมาตาล่างแล้วบ่พ้อผัว เลยย่างนำหาจนทั่ว แต่หาปานใด๋กะบ่พ้อ สร้างความทุกข์ทรมานใจแกนางหลาย ย้อนความน้อยใจในโซคซะตากับเสียใจย้อนว่าผัวไลถิ่ม นางจั่งอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า เกิดซาติหน้าฉันใด ขอให้ผัวเจ้าของตายอยู่เทิงหง่าไม้ แล้วกะอย่าได้มาเป็นคู่กันอีกเลย 

ค่อมว่าแฮงอธิษฐานของนาง ซาติต่อมาผัวนางได้เกิดเป็นพญานาคภังคี นางได้เกิดเป็นนางไอ่คำแม่ญิงผู้งาม  พัดว่าย่างเข้ากลางเดือนหก พญาขอมสิจัดงานบุญบั้งไฟ เลยได้มีการบอกบุญไปนำหัวเมืองน้อยใหญ่ต่าง ๆ ให้เอาบั้งไฟมาจูดแข่งกันอยู่เมืองของพระยาขอม คันบั้งไฟเมืองใด๋ขึ้นสูงกว่าเมืองอื่น เมืองนั้นสิได้รับทรัพย์สมบัติกับนางสนมกำนัลไป มื่องานพญาขอมกำหนด คือขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ จนว่าฮอดมื่องานอีหลี ขบวนบั้งไฟจากหัวเมืองน้อยใหญ่กะได้เข้าโฮมงานกัน ฮอดท้าวผาแดง แม้สิบ่ได้ฮับใบบอกบุญแต่กะเอาบั้งไฟมาแข่งในงานนี้พร้อม พญาขอมกะฮับต้อนอย่างดี  ฟากพญานาคภังคี คนได้ฮู้ว่าอยู่เมืองมนุษย์สิมีงานบุญบั้งไฟ แต่บ่ได้ฮับใบบอกบุญ กะแปลงกายเป็นกระรอกเผือกเข้ามาเลาะงานในย้อนว่าอยากมาเบิ่งควมงามนางไอ่คำ

งานแข่งจูดบั้งไฟตื่นตาแล้วกะหม่วนซื่นโฮแซวบักขนาด ย้อนว่าซุคนอยากสิฮู้ว่าไผสิมีชัย แล้วกะมีเหล่นทวยท้าวผาแดงกับพญาขอมว่า คันท้าวผาแดงมีชัย พญาขอมสิยกนางไอ่ให้เป็นเมีย บัดว่าแข่งแล้วผากฏว่าบั้งไฟของเมืองอื่นซุขึ้นฟ้าเหมิด เว้นบั้งไฟของพญาขอมกับท้าวผาแดงที่บ่ขึ้นเทิงคู่ ย้อนว่าบั้งไฟของพญาขอมซุ (ไม่ขึ้นเลย) แล้วทางบั้งไฟของท้าวผาแดงนั้นกะแตกกลางบั้ง  พญาขอมถือว่าแพ้แต่ว่าเฮ็ดเป็นซื่อๆบ่หัวซา บ่เฮ็ดนำคำเว้า เฮ็ดให้เจ้าเมืองต่าง ๆ เมือเมืองเหมิด ฮอดท้าวผาแดงกะเมือเมืองผาโพงพร้อมควมทุกข์ ย้อนว่าควมฮักนางไอ่แล้วกะเสียใจย้อนบั้งไฟเจ้าของบ่ขึ้น ทางกระรอกเผือกที่พึงใจฮักนางไอ่ แต่บ่มีโอกาสได้สากโตนาง     กะเอาควมฮักเมือเมืองศรีสัตนาคนหุตคือกัน

คันเมือฮอดเมืองศรีสัตนาคนหุต ท้าวภังคีกะบ่เป็นอันกินอันนอน เฝ้าคึดฮอดแต่นางไอ่ จนบ่ทานต่อควมฮักได้อีกต่อไป จั่งขอลาท้าวสุทโธนาคไปหานางไอ่อีกเทื่อ ท้าวสุทโธนาคกะห้ามบ่ให้ไป แต่กะบ่อาจขวงท้าวภังคีไว้ได้ บัดนี้มาฮอดเมืองเอกธีตาอีกเทือ ท้าวภังคีกะแปลงกายเป็นกระรอกเผือกโตเก่า มีกระดิ่งคำแขนยู่คอ ทางบริวารที่นำมากะแปลงกายเป็นสัตว์ต่าง ๆ กระรอกเผือกภังคีขึ้น เต้นสักกะโยงไปมาอยู่เทิงหง่าไม้แคมผาสาทนางไอ่ จนว่ามาคอนอยู่เทิงหง่าไม้แคมป่องเยี่ยมห้องนอนนางไอ่ แล้วเสียงกระดิ่งคำกะดังขึ้น นางไอ่จั่งเปิดป่องเยี่ยมออกไปเบิ่ง คันเห็นกระรอกเผือกกะอยากได้ กะเลยสั่งให้พรานนำจับโตมาให้  คันซั่นพรานกะออกนำหากระรอกเผือกที่เต้นสักกะโยงไปมานำหง่าไม้ บ่มีเหมื่อยบ่มีเซา แต่เฮ็ดจั่งใด๋กะจับบ่ได้ จนว่ากรรมเก่าท้าวภังคีที่เฮ็ดไว้กับนางไอ่ไลมาทัน ยามกระรอกน้อยเต้นมาฮอดต้นเดื่อที่มีลูกสุกห้อยเต็มต้น กะก้มหน้าก้มตากัดกินลูกเดื่อสุกย้อยว่าหิวแฮง ทางพรานแล่นนำมาจ่อ ๆ กะได้โอกาสยิงกระรอกกะเอาหน้าไม้ใส่ลูกดอกอาบยา คันถืกพรานยิง กระรอกเผือกภังคีกะฮู้ว่าเจ้าของสิตายแท้ๆ กะสั่งให้บริวารที่มานำไปบอกพ่อเจ้าของ แล้วก่อนสิขาดใจ กระรอกภังคีได้อธิษฐานว่า ขอให้เนื้อข้อยหอม แซบ แล้วกะมีพอกินสู่คนเหมิดเมือง พรานกะเอาเนื้อกระรอกไปยายสู่ไทบ้านให้ได้กินกัน เว้นแต่ซุมแม่หม้ายที่ไทบ้านขี้เดียดแล้วกะเลยบ่ยอมแบ่งเนื้อกระรอกให้กินนำ

ทางท้าวสุทโธนาคคันได้ฮับข่าวฮ้าย ย้อนว่าเคียดหลายลูกชายตายบ่มีควมผิด กะสั่งข้าไพร่พลนาคทั้งเมืองขึ้นไปเมี้ยนเมืองเอกธีตา เทิงว่าไว้ ไผกินเนื้อภังคีสิตายตกคือภังคีไปนำ ยามนั้นท้าวผาแดงกะเกิดคึดฮอดนางไอ่จนทนอยู่เมืองเจ้าของบ่ได้ กะขี่ม้าซื่อบักสามไปเมืองเอกธีตา และละหว่างทางนั้น ท้าวผาแดงเห็นพญานาคเต็มอากหลาก จนมาฮอดเมืองเอกธีตาและได้พ้อกับนางไอ่ ผาแดงกะเลยเว้าเรื่องพ้อมาให้นางไอ่ฟัง แต่นางไอ่บ่หัวซา ตั้งพาข้าวฮับต้อนท้าวผาแดงอย่างดี แต่คันฮู้ว่ากับข้าวนั้นเฮ็ดจากเนื้อกระรอกท้าวผาแดงกะบ่กิน แล้วเว้าสู่นางไอ่ฟังว่ากระรอกโตนั้นบ่แม่นกระรอกธรรมดาแต่เป็นพญานาคภังคีแปลงกายมา ไผกินเนื้อกระรอกแล้วสิตาย ตกมายามคืน ทัพพญานาคกะมาฮอดเมืองเอกธีตา เฮ็ดให้เมืองทั้งเมืองจม ซาวเมืองกะตื่นฮือ ย่านแฮง แต่ละผู้แต่ละคนกะหาทางหนีตาย ซาวเมืองผู้กินเนื้อกระรอกกะตายตกไปพร้อม ๆ กับเมืองเอกธีตาที่จมลงเป็นหนองน้ำใหญ่ เหตุการณ์เป็นตาย่าและบ่ดีเทื่อนี้เกิดขึ้นเทิงไวเทิงแฮง ท้าวผาแดงกะบอกให้นางไอ่เกียมของที่พอสิติดโตไปได้ บัดนี้กะพานางขี่ม้าหนีออกจากเมืองที่กำลังจม ฟากพญานาคคันได้ฮู้ว่านางไอ่หนีจากเมืองไปแล้วกะฟ้าวนำไปจ่อ ๆ นางไอ่เลยโยนกลองกับฆ้องประจำเมือง แล้วกะแหวนที่ติดโตไปนำถิ่ม ย้อนเข้าใจผิดคึดว่าพญานาคนำมาเอาของ แต่พญานาคกะนำไปบ่เซา จนว่าบักสาม ม้าของท้าวผาแดงค่อย ๆ เหมิดแฮงลง พญานาคนำมาทันกะเลยเอาหางพันโตนางไอ่ตกลงจากม้า เกี่ยนางไปเมืองบาดาล ทางท้าวผาแดงซ่อยนางไอ่ไว้ดนบ่ได้   กะขี่ม้าหนีต่อไป ทัพพญานาคยังไล่บ่เซา จนท้าวผาแดงยอมถิ่มแหวนนางไอ่ย้อนความปลอดภัยของเจ้าของ

คันเมือมาฮอดเมืองผาโพง ท้าวผาแดงก็ได้แต่เสียใจที่ต้องสูญเสียความรักไปต่อหน้าต่อตา กะเลยอธิษฐานต่อเทพเจ้าเหล่าเทวดา ผีฟ้า ผีแมนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า สิขอตายสู้กับพญานาคแล้วเอานางไอ่คืนมา จบคำอธิษฐานท้าวผาแดงกะกลั้นใจตายเทิงผาสาทของเจ้าของ ท้าวผาแดงกะได้เป็นหัวหน้าผีนำทัพผีสู้กับทัพพญานาค สองฝ่ายสู้กัน ๗ มื่อ ๗ คืน บ่มีไผแพ้ไผชนะจักเทื่อ จนท้าวสุทโธนาคเจ้าเมืองบาดาลเพิ่นเฒ่าแล้วบ่อยากเฮ็ดบาปกรรมอีกแล้ว ย้อนว่าอยากไปเกิดในภพของพระศรีอารยเมตไตรย กะเลยไปฮ้องท้าวเวสสสุวัณผู้เป็นใหญ่ให้มาตัดสิน คันท้าวเวสสุวัณฮู้เรื่อง กะเว้าสู่ทั้งสองฟากว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งเหมิดนั้น เป็นมาแต่กรรมเก่าที่ส่งมาฮอดซาตินี้ แต่ละฟากฝั่งกะมีเหตุผลทั้งคู่ ท้าวเวสสุวัณเลยขอให้เซาจองเวรกัน ทั้งผีท้าวผาแดงและพญานาคคันได้ฟังคำสั่งสอนท้าวเวสสุวัณแล้ว กะเข้าใจในมูล จั่งอนุโมทนาแล้วกะขออโหสิฯให้กัน ในที่สุดเหตุการณ์บ่ดีกะเซา เกิดควมเข้าใจและให้อภัยกัน

ตัวละคร   ท้าวผาแดง         ผู้มีบุญญาธิการ มีความกล้าหาญชาญชัย

                     นางไอ่คำ            หญิงสาวผู้มีความซื่อสัตย์ต่อความรัก

                     ท้าวภังคี              พญายาคหนุ่มที่มีใจเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และรักจริง

ต้นฉบับ   นายปรีชา พิณทอง  ได้แปลจากภาษาโบราณมาเป็นอักษรไทย และพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔

พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี  ในเรื่องท้าวผาแดงนางไอ่ ปรากฏเรื่องการแข่งขันบั้งไฟ แสดงว่าความเชื่อเรื่องการจุดบั้งไฟเพื่อขอฝนนั้นมีอยู่ในเรื่องนี้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าในขบวนแห่ประเพณีบุญบั้งไฟ (บุญเดือน ๖) มักจะมีการแต่งกายเป็นท้าวผาแดง และนางไอ่อยู่ด้วย  และนอกจากนั้นฉากในเรื่องยังเป็นที่มาของสถานที่ต่าง ๆ เช่น หนองหานใหญ่ หมายถึง จ.สกลนคร และหนองหานน้อย ปัจจุบันคือ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี  เป็นต้น

แล้วจึ่งเยื้อนโอฐเว้า                        ถามข่าวบาคราญ

พระพี่เนาแดนใด                           ดุ่งมาเถิงน้อง

เคืองใจด้วย                                อันใดเป็นประโยชน์

จึ่งได้ดั้นด้านมา                            เถิงน้องที่สถาน

bottom of page