พระลักพระลาม
เนื้อเฮื่อง
แต่ก่อนกี้ยังมีท้าวฮาบมะนาสวน (ราพณาสูร-ทศกัณฑ์) นั่งเมืองลังกา ท้าวฮาบมะนาสวนคึดอยากเฮียนวิชาศาสตร์ศิลป์กับองค์อินทาเทวราช จึ่งได้เหาะขึ้นฟ้าเข้าเฝ้าฮอดสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พอแต่อินทาไท้ฮู้เหตุความประสงค์กะบ่ทานทัดคัดค้านหยังสักสิ่ง ค่อมว่าท้าวฮาบมะนาสวนมีทศพิธราชธรรม ขอแต่ว่าอย่าไปเว้าอวดโอ้ ให้เอาวิชาความรู้นี้ไปใช้ในทางชอบ แล้ว อินทาไท้จึ่งได้สอนวิชาให้เหมิดเสี่ยง จนท้าวฮาบมะนาสวนแปลงฮูปได้ มื้อหนึ่งพระอินทร์บ่อยู่ ท้าวฮาบมะนาสวนแปลงเป็นพระอินทร์เข้าในห้องนางสุชาดา เชยชมดมดอมนางสุชาดาจนอิ่มเต็มแล้วจึ่งได้ออกไป บ่ทันดน พระอินทร์กะมาห้องนางสุชาดา นางเกิดความสงสัย เลยถามไปว่า พระองค์หัวแต่ไปบ่ดนคือคืนมาอีกแล้ว พระอินทร์ได้ยินเกิดความสงสัยซักถามเบิ่งคักแล้ว สูนให้ท้าวฮาบมะนาสวนแฮง จั่งได๋กล้าเฮ็ดซั่วปานนี้ ต่อมาพระอินทร์ฮู้ว่านางสุชาดาสิเหมิดบุญเทิงสวรรค์แล้ว จึ่งให้นางลงไปเกิดในโลกมนุษย์ใช้หนี้กรรมที่เฮ็ดไว้ ต่อมานางปฏิสนธิในครรภ์ของมเหสีท้าวฮาบมะนาสวน นางให้กำเนิดพระธิดาโสมงามคัก ท้าวฮาบมะนาสวนมีบัญชาให้โหรมาทวยเบิ่งซาตาราศี โหรทวยว่าพระธิดาสิพาความเดือดร้อนมาให้บ้านเมือง เผ่าพงศ์ยักษาพร้อมทังท้าวฮาบมะนาสวนกะสิม้วยมอดมรณาเทื่อนี้ล่ะ บ่ควรเลี้ยงนางไว้ต่อไป ย้อนว่าฮักลูกสาว เลยบ่เชื่อคำโหร สั่งให้เอาพระธิดามาเบิ่งลักษณะให้ดีประกอบคำทำนายอีกเทื่อก่อน ยามที่ท้าวฮาบมะนาสวนเข้าอุ้มราชธิดาน้อยนั้น เกิดเหตุการณ์บ่คาดคึด กะคือ ราชธิดาได้จับมีดแทงพระบิดา ท้าวฮาบมะนาสวนสูนหลาย เห็นดีงามนำคำทำนายของโหร สั่งให้นำนางไปโผดให้ไกลที่สุด เสนาอำมาตย์ฟ้าวฝั่งไปยังป่าหิมพานต์ ได้อุ้มพระธิดาไปวางไว้ในดอกบัวคำกลางสา ย้อนบุญญาธิการของนางเฮ็ดให้ฤๅษีย่างมาผ่อ เก็บนางไปเลี้ยงอยู่อาศรม ให้ซื่อว่า “สีดาจันทะแจ่ม” ฤๅษีตนนี้ได้เนรมิตนิ้วมือให้นางดูดดื่มกินแทนน้ำนมมารดา กาลเวลาผ่านพ้นไป นางสีดาจันทะแจ่มเจริญขวบได้ ๑๒ ปี แฮ่งนับมื้อแฮ่งามไปหน้าบ่มีหม่องติ ฤๅษีได้เลี้ยงดูนางดีสู่อย่างปานพ่อบังเกิดเกล้า ได้เนรมิตผาสาทแก้วพร้อมกับทาสีไว้บัวระบัติรับใช้นางแก้วบ่ห่างคีง
มีพรานผู้หนึ่งเป็นชาวเมืองลังกา ออกไล่ป่ามาหลายมื้อแล้ว แต่กะบ่ได้พอโต จนว่าฮอดขวงเขตเข้าป่าหิมพานต์ ได้ผ้อฤๅษีกับนางสีดาจันทะแจ่มโสมเสลาเกลาเกลี้ยงงามแท้กว่าไผ ได้เข้าไปถามว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าเชื้อแม่นผู้ได๋ ฤๅษีเว่าสู่ฟังว่า นางเป็นลูกเลี้ยง ออกมาแต่ดอกบัวคำ พอแต่พรานต่าวเมือ ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลท้าวฮาบมะนาสวนว่าผ้อสาวงามปานนางฟ้าอยู่ป่าหิมพานต์ อาศัยอยู่กับฤๅษีผู้เป็นบิดาเพียงสองคน ท้าวฮาบมะนาสวนพอฮู้ข่าวความงามของนางจากพรานป่า กะออกเดินทางไปอาศรมของพระฤๅษี เข้าไปนมัสการฤๅษีพร้อมทั้งรับสั่งว่า พระองค์เป็นกษัตริย์เมืองลังกายินข่าวว่าฤๅษีมีธิดาผู้งามหลาย คิดอยากได้นางไปเป็นเมีย ฤๅษีได้ฟังดังนั้นตอบว่าบ่ขัดข้องแนวได๋ดอก แต่ขอให้ท้าวฮาบมะนาสวนยกธนูทอง คันมีบุญญาธิการพอเป็นคู่ครองของนางกะอาจสิยกได้ง่าย แต่ท้าวฮาบมะนาสวนก็บ่อาจยกธนูทองได้
เว่าฮอดเมืองศรีสัตนาค เจ้าเมืองมอดม้วยไปแล้ว ยังแต่มเหสีกับโอรสอีก ๒ องค์ มีนามว่าพรลักกับพระลาม มีความลออบ่แพ้กัน ชาวประชาได้อภิเษกให้พระลักและพระลามปกครองบ้านเมืองสืบต่อจากบิดา มื้อหนึ่งมีพ่อค้าเดินทางมาแต่เมืองลังกา ได้กราบทูลถึงความงามของนางสีดาจันทะแจ่มที่อยู่ป่าหิมพานต์ พอแต่พระลักพระลามได้ฟังจั่งซั่น กะคึดอยากได้นางมาเป็นเมีย พากันไปกราบลาพระมารดา แล้วทั้งสองกะออกเดินทางออกไปจนกระทั่งฮอดอาศรมพระฤๅษี ด้วยบุญญาธิการกับบุพเพสันนิวาส พระลามสามารถยกธนูทองได้สำเร็จอย่างง่ายดาย พระฤๅษียกนางสีดาจันทะแจ่มให้เป็นมเหสีของพระลาม แล้วจั่งได้พากันลีลาย้ายออกจากอาศรมไป แต่กะหนีบ่ม้มสายตาพรานป่าแห่งเมืองลังกา พรานป่าได้นำความไปกราบทูลท้าวฮาบมะนาสวนให้ทรงทราบ ท้าวฮาบมะนาสวนคิดแค้น ทั้งเสียดายนางสีดาจันทะแจ่ม คึดหาอุบายเอาชนะให้ได้ โดยการเนรมิตเมืองขึ้นมาอย่างสวยงามกลางป่า พอแต่สามกษัตริย์ย่างผ่านมาฮอดผ้อคนผ่านไปมาอยู่เมืองนี้ พระลามกะประหลาดใจว่าเป็นหยังเมืองนี้คือจั่งมาตั้งอยู่กลางป่าลึกจั่งซี่ ตอนมาคือจั่งบ่เห็น คิดว่าพวกผีพวกยักษ์แปลงขึ้นแท้ ๆ พระลามเลยยิงธนูใส่เพื่อทำลายเมืองเนรมิต ท้าวฮาบมะนาสวนได้แปลงกายเป็นกาดำบินเซิ่นไปเซิ่นมา พระลามกวดแก่งธนู กากะพาล้มตายบักหลาย ท้าวฮาบมะนาสวนคึดหาอุบายใหม่ เทื่อนี้แปลงเป็นกวางทอง นางสีดาจันทะแจ่มเห็นกวางทองแล้วกะอยากได้ ร้องขอให้พระลามจับกวางทองตัวนั้นมาให้นาง พระลามจำใจต้องย่างนำกวางทองโดยฝากนางสีดาจันทะแจ่มไว้กับพระลัก พระลามนำกวางทองไปแล้วยิงธนูใส่กวางทอง กวางทองจึ่งฮ้องเลียนเสียงของพระลามก่อนที่จะล้มลงแล้วพระลามเลยใช้มีดตัวหัวกวางทองหิ้วกลับมา พระลักกับนางสีดาจันทะแจ่มได้ยินเสียงกวางร้องคิดว่าเป็นเสียงของพระลามได้รับอันตราย นางร้องขอให้พระลักออกไปซ่อยพระลาม ท้าว ฮาบมะนาสวนคิดว่าเป็นโอกาสดีจั่งได้ลักพาตัวนางสีดาจันทะแจ่มไป ท้าวฮาบมะนาสวนพานางสีดาจันทะแจ่มเหาะผ่านเมืองพระยาครุฑที่เป็นหมู่ของพระลักพระลาม พระยาครุฑผ้อเข้าเลยได้เข้าไปขวง โดยกางปีกบังแสงอาทิตย์จนมืดมิด เพื่อสิเข้าไปแย่งชิงเอาตัวนางสีดาจันทะแจ่มไว้ให้พระลาม ท้าวฮาบมะนาสวนฮู้ว่าพระยาครุฑย่านอิทธิฤทธิ์พระธำมรงค์ที่สวมอยู่นิ้วนางสีดาจันทะแจ่ม ท้าวฮาบมะนาสวนจึงถอดแหวนจากนิ้วของนางแก่งไปถืกปีกพระยาครุฑหัก เฮ็ดให้พระยาครุฑบินบ่ได้ แพ้ให้ท้าวฮาบมะนาสวน ท้าวฮาบมะนาสวนเลยฟ้าวพานางสีดาจันทะแจ่มเหาะหนี
พอแต่พระลามกลับมาบ่เห็นนางสีดาจันทะแจ่มกะได้ออกนำหาจนล้ากะบ่เห็น คิดว่าเสือช้างจับนางกินอยู่กลางป่า บ่ซั่นกะพวกวิทยาธร พรานป่าที่ผ่านมาเห็นเข้าแล้วลักพานางไป พระลามเลยโทษว่าเป็นความผิดของพระลักที่บ่เบิ่งนางไว้ ปล่อยให้นางอยู่กลางป่าผู้เดียว พระลามเด็ดใบไม้แล้วจ่มมนตร์กะฮู้ว่านางสีดาจันทะแจ่มยังบาตาย ฝ่ายพระลักได้เด็ดใบไม้มาจ่มมนตร์คือกัน ย้อนอยากฮู้ว่านางถืกไผลักพาตัวไปไว้หม่องใด๋ จนฮู้ว่า มีพระยายักษ์ทรงอิทธิฤทธิ์ลักพานางเหาะหนีไปทางทิศบูรพา พระลักพระลามจึ่งขี่ม้ามณีกาบเหาะนำไปทันที จนฮอดเมืองพระยาครุฑ พระยาครุฑเว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พระลักพระลามฟัง ตนกะคึดเสียใจที่ช่วยนางไว้บ่ได้ พระลามได้ซ่อยรักษาปีกให้พระยาครุฑจนคืนมาดีบินได้คือเก่า จึ่งลาพระยาครุฑเดินทางนำหานางสีดาจันทะแจ่มต่อไป จนว่าเมื่อยล้า จั่งเซาพักอยู่ใต้ต้นมณีโคตรที่กำลังออกลูกแดงสุกงามเต็มต้น ต้นมณีโคตรนี้มีหง่าสามหง่าคือ หง่าที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก คันกิน หง่านี้สิผู้งาม หง่าที่ชี้ไปทางทิศใต้ผู้ใด๋กินสิกลายเป็นลิง แล้วกะหง่าที่ชี้ไปทางทิศเหนือคันผู้ใดกินสิกลายเป็นนกกะยาง พระลักพระลามเห็นหมากมณีโคตรสุกงาม ย่อนหิวเลยปีนขึ้นไปเก็บหมากมณีโคตรกิน พระลามได้เก็บกินหมากทิศใต้เลยกลายเป็นลิง ส่วนพระลักกินหมากทางทิศตะวันออกเลยผู้งามกว่าเก่า พอพระลักเห็นพระลามกลายเป็นลิงเลยนั่งไห้ ย่อนว่าลิโตนอ้าย พระลักต้องอยู่เฝ้าลิงพระลามในป่านี้ต่อไปอีก ได้พยายามให้ลิงพระลามกินหง่าที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกสิได้กลับมาเป็นคนคิอเก่า แต่ว่าลิงพระลามบ่ยอม ย่อนว่ายังมีกรรมเก่าเฮ็ดให้เหตุการณ์เป็นจั่งซี่
เว่าเถิงฤๅษีอีกตนหนึ่งมีวิชาอาคมแก่กล้า คิดหวังแนวได่ได้เบิด อาศัยอยู่ในถ้ำมาดน คิดอยากมีเมีย ลงอาบน้ำถูขี้ไคลมาปั้นเป็นหญิงสาว แล้วฮ่ายมนตร์ให้หญิงสาวนี้กลายร่างเป็นหญิงงามที่มีชีวิตจิตใจ ฤๅษีตั้งชื่อให้ว่า นางจันทะแจ่มอินทา“ ฤๅษีอยู่กับนางจันทะแจ่มอินทาในถ้ำอย่างมีความสุข จนว่านางได้กำเนิดบุตรีชื่อ “นางแพงแก้วศรี”
ยังมีพระอาทิตย์ผู้มีอาคมล้ำลึกได้เหาะมายังป่าแห่งนี้ ได้ผ้อกับนางจันทะแจ่มอินทา ผู้เป็นเมียฤๅษี พอดีนางกำลังอาบน้ำอยู่นั้น เห็นว่านางนี้งามหลาย พระอาทิตย์ได้เว่าถาม แต่นางบ่ยอมตอบพร้อมกับแล่นเข้าไปในถ้ำ บ่ได้บอกให้ฤาฮู้ พระอาทิตย์ลี้เบิ่งอยู่ใกล้ ๆ ปากถ้ำ ผ้อว่ามีก้อนหินใหญ่ปิดปากถ้ำอยู่ พยายามซุกท่อได๋กะเปิดบ่ได้ เลยได้นั่งซอมต่อไป พอดีเป็นยามที่ฤาษีสิต้องออกไปหากินนอกถ้ำ พอแต่ฤๅษีสิออกมาแล้ว บ่คิดว่าในป่าดงจั่งซี่สิมีผู้ได๋มาฮอด จั่งฮ่ายมนตร์เสียงดัง แล้วใช้มือยู่ก้อนหินใหญ่ปิดปากถ้ำออกแล้วจั่งย่างต่อไป พระอาทิตย์จำมนตร์นั้นได้เหมิด พระอาทิตย์เลยเปิดปากถ้ำได้ง่าย แล้วได้นางจันทะแจ่มอินทาเป็นเมีย ทั้งสองลักลอบได้เสียกันจนนางจันทะแจ่มอินทาได้กำเนิดบุตรชายฝาแฝด ฤๅษีบ่ฮู้ว่าแฝดนี้บ่แม่นลูกจักของ ดีใจหลายมีลูกชายไว้สืบหน่อแทนแนว พร้อมทั้งได้พร่ำสอนเวทย์มนตร์คาถาต่าง ๆ ให้ลูกจนเบิดเสี่ยง พอลูกชายแฝดเจริญวัยได้ ๑๒ ขวบ จึ่งตั้งชื่อให้ผู้อ้ายว่า “สังคีป” น้องชื่อ “พะลีจันทร์” ทั้งสังคีปกับพะลีจันทร์เรียนศาสตร์ศิลป์กับฤๅษี จนสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างน่าอัศจรรย์ผิดกับมนุษย์ธรรมดา ฤๅษีจึ่งคึดสงสัยว่าลูกทั้งสองคนนี้ต้องบ่แม่นลูกจักของคัก ๆ อีกทั้งรูปร่างหน้าตากะเป็นแปลก ได้เอาลูกสามคนไปเสี่ยงทาย โดยอธิษฐานว่า สิโยนลูกทั้งสามคนนี้ไปกลางแม่น้ำ คันไผเป็นลูกจักของให้ว่ายน้ำกลับมา คันบ่แม่นให้ลอยนำน้ำไป ในที่สุดสังคีปกับพะลีจันทร์ได้ลอยนำน้ำไป ส่วนนางแก้วแพงศรีลอยกลับมาหาฤๅษีผู้เป็นพ่อ ฤๅษีจั่งแน่ใจว่าสังคีปและพะลีจันทร์บ่แม่นลูกจักของ จั่งเนรมิตเมืองให้สังคีปกับพะลีจันทร์ แล้วพานางแก้วแพงศรีกลับมาอาศรม พอแต่นางจันทะแจ่มอินทาบ่เห็นลูกชายฝาแฝดกลับมาจั่งถามหา นางแก้วแพงศรีกะได้เว่าเรื่องให้แม่ฟัง นางฮู้ว่าฤๅษีหาทางกำจัดลูกชายฝาแฝด นางเคียดแค้นหลายจับนางแก้วแพงศรีดึกไปจนฮอดภูหน่วยหนึ่ง นางแก้วแพงศรีต้องย่างป่าผู้เดียวจนว่าฮอดต้นมณีโคตร นางได้กินหมากมณีโคตรหง่าทางทิศใต้จนกลายเป็นลิง ต่อมาลิงนางแก้วแพงศรีกับลิงพระลามได้สมสู่กัน จนนางแก้วแพงศรีตั้งท้อง ออกลูกมาเป็นลิงเผือกชื่อว่า “หุลละมาน” (หนุมาน)
ยังมีควายตัวหนึ่งมีกำลังปานพระยาช้างสาร เป็นพระยาแห่งควายทั้งหลายในป่านี้ ชื่อว่า ควายทัวระพี มีนางควายเป็นบริวารเป็นหมื่น ๆ ตัว พระยาควายมีคำสั่งต่อนางควายทั้งหลายว่า คันนางควายตัวใดคลอดลูกตัวผู้ให้ฆ่าทิ่มเบิด อยู่ต่อมาอีกหลายปี นางพระยาควายได้ตั้งท้อง พอฮอดขวบนางได้ให้กำเนิดควายตัวผู้ ย่อนความรักความลิโตนบ่อยากฆ่าลูกนาง เลยนำลูกไปเสี่ยงไว้ในถ้ำถ้ำหนึ่ง แล้วใช้หินปิดปากถ้ำไว้ พอฮอดยามใกล้ค่ำนางจั่งหลอยไปเบิ่งลูกนางในถ้ำ พร้อมทั้งป้อนอาหารกับนม เฮ็ดจั่งซี่อยู่สู่มื้อ
จนมื้อหนึ่ง ควายทัวระพีถามนางพระยาควายว่า เจ้าตั้งท้องพอคลอดแล้วเอาลูกไปไว้ไส นางตั๋วว่านางคลอดลูกก่อนฮอดขวบ ตอนนี้ลูกตายแล้ว ฝ่ายผัวกะหลงเชื่อคึดว่าเว่าอีหลี หลายปีผ่านไปควายทัวระพีผู้ลูกได้เติบโตเป็นหนุ่ม มีเขาทั้งสองข้างยาวข้างละแปดวา ตัวใหญ่ท่อช้างเก้าศอก มีแฮงหลายปานพระยาช้างสาร มันอยากเห็นหน้าพ่อ นางควายผู้เป็นแม่ได้อธิบายให้ฟังว่าพ่อมีความโหดฮ้ายแล้วมีกำลังมหาศาล ให้เจ้าใหญ่กว่านี้แข็งแรงกว่านี้ก่อนแล้วแม่สิพาไปหาพ่อเจ้า มื้อหนึ่งควายทัวระพีผู้พ่อย่างผ่านหน้าถ้ำไปพร้อมกับนางควายตัวอื่น ๆ ควาย ทัวระพีผู้ลูกแนมเห็นแต่ไกล คิดว่าแม่นพ่อจักของ จึ่งหลอยไปแทกฮอยตีนพ่อ จนต่อมาฮอยตีนจักของใหญ่ท่อพ่อแล้ว ได้ร้องขอให้แม่พาไปหาพ่อ นางจั่งเว่าความเก่งกล้าของพ่อให้ลูกฟังว่า พ่อมีความสามารถมีแฮงหลายกว่าสิมีใผเทียบได้ ขอให้เจ้าหัดเลียนแบบพ่อจนเก่งศุ่อันสู่แนวก่อนแม่จั่งสิพาไป ต่อมาฝึกฝนจนเก่งกล้ามั่นใจในความสามารถของจักของแล้ว จึ่งไปท้าให้พ่อมาสู้กับเจ้าของ จนควายทัวระพีถืกลูกจักของฆ่าตาย ควายทัวระพีผู้ลูกพอแต่ฆ่าพ่อตายแล้วกะเกิดความฮึกเหิมได้ไปท้าสู้กับจอมปลวก ท้าสู้กับต้นโพธิ์ เทพารักษ์ประจำต้นโพธิ์ได้สาปแช่งควายทัวระพีให้ตายย่อนของ้าวของมีคม ควายทัวระพีย่างท้าสู้รบไปเรื่อย ๆ จนบ่มีใผอยากสู้นำ มีแต่คนสาปแช่ง จนย่างไปฮอดเมืองสังคีปพะลีจันทร์ ควายทัวระพีได้ท้ารบกับสังคีป ได้สู้กันอย่างเต็มแฮง บ่มีใผยอมแพ้อ่อนข้อให้กัน สุดท้ายได้ชวนกันไปสู้ในถ้ำ สังคีปจึ่งสั่งพะลีจันทร์ว่า ให้พะลีจันทร์ยืนคองอยู่ปากถ้ำ แล้วให้สังเกตเบิ่งคันเห็นเลือดขุ่นข้นสีแดงเข้มไหลออกมา แสดงว่าเป็นเลือดของควาย แต่คันเป็นเลือดสีแดงสดใส แสดงว่าเลือดของสังคีป ให้พะลีจันทร์ปิดปากถ้ำแล้วฟ่าวหนีไป ระหว่างที่เกิดการสู้รบกันของสังคีปกับควายทัวระพีในถ้ำนั้น ฝนได้ตกลงมาอย่างแฮง ยามนั้นพะลีจันทร์เห็นเลือดแดงไหลปนกับฝนเป็นสีแดงสดพอดี กะรู้สึกเสียใจที่สังคีปแพ้ควายทัวระพี เลยฟ่าวปิดปากถ้ำแล้วย่างกลับเมือง แจ้งข่าวการตายของสังคีปให้ประชาขนฮู้ ทุกคนเศร้าโศกเสียใจ แล้วอัญเชิญให้พะลีจันทร์ขึ้นครองเมืองต่อไป
พอแต่สังคีปฆ่าควายทัวระพีตายแล้ว ได้ฟ่าวย่างออกมาฮอดปากถ้ำเห็นว่าปากถ้ำปิดบ่แกบกะเลยออกมาได้ จึ่งได้กลับไปตัดเอาหัวควายทัวระพีมาโยนจนปากกระตูถ้ำแตกกระจายแล้วจึ่งย่างกลับเข้าเมือง พอมาฮอดเห็นพะลีจันทร์นั่งอยู่กับนางสนมกำนัลกะสูน ไล่ตีพะลีจันทร์ ย่อนความย่านพะลีจันทร์กะฟ่าวหนีออกจากเมืองไปอยู่ป่า เสียใจหลายไห้อยู่ ๔ เดือน จนน้ำตากลายเป็นแม่น้ำชื่อ “ยมนา”
พระลักเฝ้าลิงพระลามอยู่ใต้ต้นมณีโคตรเป็นเวลา ๓ ปี ได้พยายามล่อให้ลิงพระลามกินผลมณีโคตรหง่าที่สิกลายเป็นมนุษย์แต่กะบ่เป็นผล มื้อหนึ่งลิงพระลามได้มากินผลมณีโคตรหง่าทางทิศตะวันออก จั่งกลายร่างเป็นมนุษย์คือเก่า ทั้งพระลักพระลามดีใจหลาย ทั้งสองพี่น้องได้ออกนำหานางสีดาจันทะแจ่มต่อไป ทิ่มลิงนางแก้วแพงศรีกับลิงหุลละมานสองแม่ลูกไว้อยู่ต้นมณีโคตร ยามที่เดินทางอยู่นั้น พระลามรู้สึกกระหายน้ำจึ่งให้พระลักไปฮ่ายน้ำใส่น้ำเต้ามาถวาย พระลักได้ผ้อพะลีจันทร์ฮ้องไห้อยู่ ถามจนได้ความว่าสังคีปไล่ฆ่าพะลีจันทร์ย่านว่าสิแย่งราชสมบัติ พระลักได้ชวนพะลีจันทร์ไปเฝ้าพระลาม พระลามถามความสมัครใจพะลีจันทร์ว่า สิไปนำกันหรือสิกลับไปครองเมืองสังคีป พะลีจันทร์ตอบว่าอยากไปครองเมือง ทั้งอยากขอเพิ่งบารมี จั่งซั่น พระลักพระลาม พะลีจันทร์จึ่งย่างไปเมืองสังคีป สังคีปกับพะลีจันทร์ได้สู้กันแต่บ่มีผู้แพ้ชนะจนทั้งสองอ่อนล้า พระลามเลยฮ่ายมนต์เฮ็ดตำหนิคือเอาปูนมาแต้มเป็นหมายเทิงหลังพะลีจันทร์ เพื่อให้เห็นความแตกต่างกัน เพราะทั้งสองคนเป็นแฝดที่คือกันหลาย ตอนที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น สังคีปถืกศรพระลามจนตาย พะลีจันทร์จึ่งได้ครองเมือง พระลามคึดฮอดลูกกับเมียที่เป็นลิง จึ่งสั่งให้พระลักกับพะลีจันทร์ไปนำลิงนางแก้วแพงศรีกับลิงหุลละมานเข้าเมือง นางแก้วแพงศรีจึ่งกลายร่างเป็นมนุษย์คือเก่า ส่วนลิงหุลละมานยังมีกรรมเก่า บ่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้คือจั่งแม่ ยังเป็นลิงด่อนคือเก่า
พอนางแก้วแพงศรีกับลูกมาอยู่ในเมืองกับพระลักพระลามแล้ว พระลามได้ใช้ให้หุลละมานไปนำหานางสีดาจันทะแจ่มอยู่เมืองลังกา หุลละมานได้เหาะไปผ้อฤๅษีตาไฟ ได้ถามทางไปเมืองลังกา แล้วฟ่าวเดินทางต่อไปจนฮอดเมืองลังกา ได้แปลงร่างเป็นหนุ่มรูปงามเข้าไปเกี้ยวสาวเมืองลังกา จนผ้อนางสีดาจันทะแจ่ม ได้เว่าให้นางฟังว่าพระลามบอกให้ฟ่าวพานางคืนเมือ ท้าวฮาบมะนาสวนฮู้ข่าวว่าลิงหุลละมานเข้ามาอยู่ในเมืองลังกา สั่งให้เสนาอำมาตย์จับ หุลละมานฆ่า แต่บ่มีใผเฮ็ดหยังหุลละมานได้ ท้ายที่สุดหุลละมานถืกกบ้วงบาศของท้าว ฮาบมะนาสวน พอจับได้ท้าวฮาบมะนาสวนสั่งให้เอาไปฆ่าแต่หุลละมานกะบ่ตาย จึ่งวิธีว่าคันสิฆ่าให้ตายต้องเอาน้ำมันลูบนำขนให้ทั่วตัวแล้วจูดไฟเผา เทื่อนี้หุลละมานจั่งได้เผาเมืองลังกาเป็นเถ้าถ่าน แล้วกลับไปรายงานต่อพระลาม พระลามคิดฮอดนางสีดาจันทะแจ่ม จั่งให้หุลละมานไปถามฤๅษีว่าสิไปทางใด ฤๅษีบอกให้ไปเบิ่งในท้องปลาอานนท์ หุลละมานจึ่งเนรมิตให้บังเกิดเป็นพระอาทิตย์เจ็ดหน่วย แล้วใช้ปากคาบลอยเข้าปากปลาไปในท้องปลา แล้วคาบเอาตำนานออกมา ในตำนานบอกทางข้ามน้ำไปเมืองลังกา พระลามส่งสาส์นไปหาท้าวฮาบมะนาสวนว่า ให้ส่งนางสีดาจันทะแจ่มคืนให้พระลาม คันบ่ส่งคืนสิยกกองทัพมารบให้เมืองลังการาบเป็นหน้ากลอง ท้าวฮาบมะนาสวนได้ถามกลลวงของพระองค์กับท้าวเสตถะราช ท้าวเสตถะราชขอร้องให้บิดาคืนนางสีดาจันทะแจ่มให้พระลามไปโลด บ่จั่งซั่นนางสิเป็นเหตุให้เกิดการชักศึกเข้าบ้าน ท้าวฮาบมะนาสวนสูนหลาย จับท้าวเสตถะราชแกว่งไป แล้วท้าวฮาบมะนาสวนได้เหาะไปขอความซ่อยเหลือจากพวกผียักษ์ ขอให้ซ่อยกันจับพระลักพระลามกับพะลีจันทร์กินเป็นอาหาร
พระรามเตรียมพลทหารเมืองสังคีปให้สร้างสะพานหินข้ามไปเมืองลังกา ตอนที่กำลังสร้างสะพานหินอยู่นั้น หุลละมานได้แปลงร่างเป็นปลาลอยน้ำไปผ้อกับนางมัสสา (มัจฉา) สมสู่กันได้ลูกออกมาชื่อว่าท้าวอุทธา (มัจฉาณุ) มีฤทธิ์เดชคือพ่อ พอหุลละมานกลับไปเฝ้าพระลาม นางมัสสานำหาผัวบ่ผ้อ จั่งพาท้าวอุทธาไปกราบทูลท้าวฮาบมะนาสวนว่านางมีผัวผู้มีอิทธิฤทธิ์ได้วางแผนฆ่าพระลามด้วยการทำสะพานหินข้ามมาเมืองลังกา ท้าวฮาบมะนาสวนดีใจมีลูกเขยกับหลานมีอิทธิฤทธิ์คือกัน
พญาครุฑคิดฮอดพระลามจั่งได้บินมาผ้อ พระลามซวนให้ซ่อยอีกแฮงหนึ่ง พระลามกับพญาครุฑไปหาท้าวเสตถะราช ขอให้พระลามซ่อย ทั้งได้เว่าเรื่องที่สิขวางความคิดของท้าวฮาบมะนาสวนให้พระลามฟัง พระลามได้ร่ายมนต์เสกเป่าจนหายดีแล้ว จั่งได้พากันเดินทางต่อมาผ้อสะพานที่มีคนย่างข้ามไปมา แล้วสะพานนี้กะปี้นกลับเฮ็ดให้คนสัญจรไปมาตกน้ำตาย ท้าวเสตถะราชได้พิจารณาเบิ่งจั่งฮู้ว่าเป็นลิ้นของท้าวฮาบมะนาสวนบ่แม่นสะพานอีหลี หุลละมานได้ฟังจั่งฟ่าวเหาะไปหาท้าวฮาบมะนาสวนแล้วใช้ตีนเตะกะหง่อน เฮ็ดให้ลิ้นของท้าวฮาบมะนาสวนหลุดตกสะพานไป
ต่อมาพอสร้างสะพานแล้ว พระลามกะยกทัพเข้าเมืองลังกาได้ ได้ชนช้างกับท้าวฮาบมะนาสวน ท้าวฮาบมะนาสวนแพ้แล้วได้ไปขอกำลังนำหมู่ชื่อ โมกขะสัก มาซ่อยรบกับพระลาม พระลามถูกหอกโมกขะสัก หุลละมานต้องไปเที่ยวหาเก็บยามาปัวพระลามจนเซาแล้ว พระลามได้ไปรบกับท้าวฮาบมะนาสวนอีก เทื่อนี้พระลามสามารถผาบท้าวฮาบมะนาสวนได้สำเร็จ ได้เวนคืนเมืองลังกาให้ท้าวเสตถะราชครองแทนพ่อ ส่วนพระลามพานางสีดาจันทะแจ่มกลับไปเมืองศรีสัตนาค พร้อมทั้งให้พะลีจันทร์กลับไปครองเมืองสังคีปคือเก่า
ชาวเมืองศรีสัตนาคได้จัดพิธีเสกสมรสให้พระลักพระลามและนางสีดาจันทะแจ่ม ตามราชประเพณี พอแล้วพิธีพะลีจันทร์ได้ลากลับเมือง พระลามใช้ให้พญาครุฑไปเก็บหมากมณีโคตรมาให้หุลละมานกิน พอหุลละมานกินหมากมณีโคตรแล้วจั่งกลายร่างเป็นมนุษย์รูปงาม จากนั้นพระลามจั่งแจกจ่ายหมากมณีโคตรให้ชาวเมืองกิน แล้วพญาครุฑได้ลากลับเมือง
นางสีดาจันทะแจ่มกลับมาอยู่เมืองศรีสัตนาคกับพระลามอย่างมีความสุข จนนางทรงครรภ์ได้ ๓ เดือน มื้อหนึ่งนางสนมกำนัลในอยากเห็นรูปร่างหน้าตาของท้าวฮาบมะนาสวน นางสีดาจันทะแจ่มจั่งได้วาดรูปท้าวฮาบมะนาสวนให้เบิ่ง พระลามมาผ้อเข้ากะสูนหลายย่อนคิดว่านางคิดฮอดท้าวฮาบมะนาสวน สั่งให้ประหารนางสีดาจันทะแจ่ม พระลักฮู้ว่านางสิให้กำเนิดเลือดเนื้อเชื้อไขพระลาม คิดลิโตนจั่งพานางไปอาศรมฤๅษีผู้เป็นพ่อของนาง แล้วพระลักก็เดินทางกลับหว่างทางได้ฆ่าหมาควกเอาหัวใจไปถวายพระรามตามรับสั่ง ต่อมานางสีดาจันทะแจ่มได้ให้กำเนิดพระโอรส นางเลี้ยงดูพระโอรสเจริญวัยได้ ๑๕ ปี (บ่ฮู้ซื่อ) พระโอรสได้ไปแล่นเล่น ได้ท้าพนันตีคลีแลกข้าวห่อกับเด็กเลี้ยงควาย ย่อนว่าเป็นคนมีบุญญาธิการและมีอิทธิฤทธิ์ เลยเอาชนะเด็กเลี้ยงควายได้สู่เทื่อ พอเด็กเลี้ยงควายบ่มีข้าวกินเลยไห้ไปเว่าสู่พ่อแม่จักของฟัง มื้อหนึ่งชาวบ้านได้นำความขึ้นกราบทูลพระลามให้ฮู้ พระลามได้สั่งให้หุลละมานไปปราบ แต่หุลละมานสู้บ่ได้ ทั้งยังถืกเอาหญ้าคามัดแล้วส่งคืนมา พระลามประหลาดใจที่หุลละมานผู้มีฤทธิ์ต้องพ่ายแพ้ให้เด็กน้อย คิดว่าผู้สิเฮ็ดกับหุลละมานได้ต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการ เลยสั่งให้เสนาอำมาตย์ไปถามว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใผ ในที่สุดพระโอรสได้เว่าให้ฟังว่าเป็นลูกของนางสีดาจันทะแจ่ม อาศัยอยู่กับฤๅษีอยู่กลางป่า แล้วพระลามจั่งฮู้ว่านางสีดาจันทะแจ่มยังบ่ทันตาย มีคำสั่งให้ไปรับนางสีดาจันทะแจ่มพร้อมกับพระโอรสกลับเข้าเมือง
ตัวละคร พระลักและพระลาม เป็นผู้รูปโฉมงดงาม และมีสติปัญญาปราดเปรื่อง
ท้าวฮาบมะนาสวน พญายักษ์มีนิสัยอิจฉาริษยา อยากได้ทุกอย่างมาเป็นของตน
นางสีดาจันทะแจ่ม หญิงผู้มีสิริโฉมงดงาม มีความซื่อสัตย์ต่อสามี
ต้นฉบับ อยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี ต้นฉบับเรื่องพระลักพระลาม พบในภูมิภาคอีสาน ๒ สำนวน คือ สำนวนฉบับร้อยแก้วและสำนวนฉบับโคลงสาร ในที่นี้จะยกตัวอย่างเฉพาะสำนวนฉบับโคลงสารที่พระอริยานุวัตร (อารีย์ เขมจารี) วัดมหาชัย อ.เมือง จ.มหาสารคาม ได้ปริวรรตอักษรไทน้อย มูลนิธิเสถียรโกเศศ-นาคะประทีป จัดพิมพ์เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ ความยาว ๑๓๓ หน้า ตามคำนำกล่าวว่าได้ต้นฉบับมาจากวัดเหนือ อ.เมือง จ.สกลนคร
อันหนึ่ง เจ้าจง ทศราชแท้ ตั้งอยู่ตามคอง
อย่าได้ ไลบูราณให้ ใส่ใจมั่น
คองกษัตริย์สร้าง เสยเมืองตั้มไพร่
เสี่ยวสหายพี่น้องไห้ เพียรยื้อย่องยาม