พระสุวรรณสาม
เนื้อเฮื่อง
พระสุวรรณสามเป็นพระโพธิสัตว์ชาติที่ ๓ ในพระเจ้าสิบชาติก่อนที่สิมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า บำเพ็ญเมตตาธรรม ธรรมที่สินำผู้ปฏิบัติไปเถิงความบ่มีภัย เป็นเกราะแก้วป้องกันอันตรายบ่ให้มากรายกล้ำล้ำล่วงได้
แต่ก่อนกี้ มีชายหนุ่มเนื้อนามว่า “ทุกุละ” กับนางนาฏน้อยนามว่า “ปาริกา” เป็นบุตราบุตรีแห่งนายพรานเนื้อ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายนั้นเห็นต้องพ้องกันว่า ให้แต่งงานเป็นดองกันสา แต่ว่าทั้งหนุ่มสาวเห็นว่าการอยู่กินเป็นเมียผัวนี้มันเป็นทุกข์ แต่กะบ่สามารถสิขืนขัดคัดค้านความต้องการของพ่อแม่ได้ กะเลยต้องยินยอมน้อมรับแต่งงานกันไป แล้วจั่งได้พากันหนีออกบวชไปอยู่ในป่าหิมพานต์
มื้อหนึ่ง ท้าวสักกะฮู้เหตุเภทภัยที่สิเฮ็ดให้ดาบสทั้งสองตาบอด ได้ลงมาบอกว่าให้มีบุตร ให้ดาบสทุกุละลูบท้องดาสินีปาริกาแล้วจั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้บุตร ต่อมาบ่ดนดาบสินีปาริกากะตั้งท้องแล้วคลอดออกมาเป็นบุตรชาย ผิวพรรณวรรณะผุดผ่องปานคำในเบ้า ได้ชื่อว่า “สุวรรณสาม“ เติบได้ใหญ่มาอายุ ๑๖ ปี มื้อหนึ่ง ดาบสทั้งสองพากันออกไปเก็บหมากไม้ ฮอดยามแลงฝนตกแฮงได้พากันเข้าไปหลบลี่หนีฝนอยู่ข้างโพนปลวกใต้ต้นไม้ใหญ่ งูเห่าอยู่ในโพนปลวกออกมาพ่นพิษใส่ดาบสทั้งสองจนตาบอด สุวรรณสามเห็นผิดแผกแปลกใจเลยดั้นด้นออกนำหาจนได้พ่อ พากลับเข้าอาศรม สุวรรณสามได้ผูกเชือกโยงไปหม่องนั่นหม่องนี่ให้ดาบสทั้งสองได้คลำไปเฮ็ดกิจธุระได้ง่ายขึ้น แต่นั้นมา สุวรรณสามกะได้บัวระบัติอุปัฏฐากพ่อแม่เป็นอย่างดี
พระเจ้าปิลยักษ์ กษัตริย์เมืองพาราณสี มักออกไปหาล่าเนื้อในป่าหิมพานต์เพียงพระองค์เดียว ยามแลงมื้อหนึ่งพระองค์เสด็จไปฮอดแม่น้ำมิคสัมมตา เหลียวเห็นฝูงหมู่สัตว์แวดล้อมอ้อมกายสุวรรณสามอยู่ด้วยอำนาจแห่งเมตตาบารมี พระเจ้าปิลยักษ์อยากสิฮู้ว่าเป็นผู้ได๋ เทพยดาหรือนาค เลยยิงศรถืกสุวรรณสามจนได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่บ่ได้คึดเคียดแค้นหรือว่าคิดย่านตาย คิดฮอดแต่บิดามารดาว่าเพิ่นสิเป็นอยู่ต่อไปจั่งได๋ พระเจ้าปิลยักษ์สอบถามได้ฮู้ความตามจริงแล้วกะเลยสำนึกผิด ตกลงปลงใจว่าสิสละราชสมบัติแล้วมาเบิ่งแงงบิดามารดาแทนสุวรรณสาม หลังจากที่สุวรรณสามฝากฝังบิดามารดาจักของแล้วกะสลบไป
พระเจ้าปิลยักษ์เสด็จไปอาศรม ดาบสทั้งสองฮู้ว่าบ่แม่นสุวรรณสาม ปิลยักษ์กะเลยต้องรับสารภาพแล้วพาดาบสทั้งสองไปหาสุวรรณสามที่กำลังนอนสลบอยู่ ดาบสซ้อนเอาทางหัวสุวรรณสาม ดาบสินีซ้อนเอาทางเท้า ทั้งสองกะพาฮ้องไห้คร่ำครวญ ดาบสินิฮู้ว่าคีงสุวรรณสามยังฮุ่ม ๆ อยู่ ฮู้ว่ายังบ่ทันตาย ดาบสทั้งสองได้ตั้งใจอธิษฐานขอเดชาอานิสงส์ทั้งหลายที่สุวรรณสามได้บัวระบัติอุปัฏฐากบิดามารดานี้ ให้พิษบาดแผลหายไป สุวรรณสามฮุ่งเมื่อคีงขึ้น เทพธิดาสุนทรีผู้เคยเป็นมารดาของสุวรรณสามตั้งแต่ชาติปางก่อน เคยปกปักฮักษาคุ้มครองสุวรรณสามกะตั้งจิตอธิษฐานคือกัน สุวรรณสามสามารถลุกขึ้นได้เป็นตาอัศจรรย์ แล้วหน่วยตาของดาบสทั้งสองที่เคยบอดกะเหลียวเห็นได้ดีคือเก่า จากนั้น สุวรรณสามกะได้บอกสอนพระเจ้าปิลยักษ์ให้เฮ็ดดีกับพระชนก พระชนนี พระมเหสี พระโอรสธิดา ข้าราชบริพาร ชาวเมือง อุปถัมภ์บำรุงสมณะชีพราหมณ์ เมตตามวลหมู่สรรพสัตว์ มีกาย วาจา ใจ ที่สุจริตบ่ผิดธรรม
ตัวละคร พระสุวรรณสาม ผู้มีความเมตตา ไม่เคยคิดร้ายต่อสิ่งใด
ต้นฉบับ จารุมุกด์ เรืองสุวรรณ ได้เรียบเรียงขึ้นใหม่เป็นภาษาไทยกลาง เพื่อให้ผู้อ่านอ่านเข้าใจง่าย ลงพิมพ์ใน “หนังสือพิมพ์ขอนแก่น” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมมากจากผู้อ่านมาแล้วแต่ พ.ศ. ๒๕๑๙
พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี ชาดกเรื่องนี้ให้คติว่า คนมีเมตตา คือ คนที่มีความรักและปรารถนาดี ทั้งแก่คนที่เป็นมิตรและศัตรู การมีเมตตาที่ถูกต้องคือ เริ่มต้นจากรักตัวเอง แล้วขยายความรักนั้นสู่บุคคลอื่น
พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระสุวรรณสาม ทรงบำเพ็ญเมตตาบารมี
เมตตาบารมี คือ บารมีที่มีจิตใจพร้อมเมตตา แม้ต่อให้ผู้ที่จะทำร้ายตนให้ต้องสูญเสียธนสารสมบัติ เลือดเนื้อและชีวิตก็ตาม เมตตากับทุกคนทั้งที่เป็นคนดี มีประโยชน์เกื้อกูล และคนไม่ดี ไม่มีประโยชน์เกื้อกูล อย่างเสมอกัน ถือว่าทุกคนเท่าเทียมกัน