top of page

ท้าวกำพร้าผีน้อย

เนื้อเฮื่อง

  กล่าวเถิงแต่เทื่อพุ้น ยังมีเมืองหนึ่งมีเด็กน้อยผู้หนึ่งเป็นกำพร้าพ่อแม่ ได้เทียวขอทานซาบ้านกินจนหว่าใหญ่ เป็นบ่าวพอแวงๆแล้วเลยออกจากเมือเฮ้ไฮ่ใส่นาอยู่ตามบ้านนอกขอกคาเม พอแต่ข้าวงามกะมีสัตว์มากิน ไล่จั่งได๋กะบ่ฮู้จักเบิด เอาหยังมาดักกะขาดถิ่มเบิด เลยไปขอเอาสายไหมจากย่าจำสวน (คนสวนของพระราซา) มาแล้วกะเลยจับได้ซ้าง ซ้างกะเลยฮ้องขอซีวิตแล้วบอกว่าสิให้ของวิเศษ คือ ถอดงาซ้างข้างหนึ่งให้ ท้าวกำพร้าเลยปล่อยซ้างไปแล้วเอางามาไว้เฮือน ต่อมาท้าวกำพร้าเลยดักเสือได้ เสือโตนั้นกะฮ้องขอซีวิตแล้วสิยอมเป็นลูกน้องของท้าวกำพร้าสืบต่อไป เสือเลยบอกว่า คันแม่นมีเรื่องหยังสิฟ้าวมาซ่อทันที  ต่มากะจับได้อีเห็นอีก อีเห็นกะยอมเป็นลูกน้อง ต่อมากะจับได้พญาฮุ้ง (นกอินทรีย์) พญาฮุ้งกะยอมเป็นลูกน้องอีก โตสุดท้านที่จำได้แม่นผีน้อย มาหลอยกินปลาอยู่ในไซ ผีน้อยกะเลยยอมเป็นลูกน้อง  พอแต่ท้าวกำพร้าเอางาซ้างมาไว้เฮือน ในงาซ้างนั้นกะมีหญิงสาวงามคนหนึ่งซื่อว่า นางสีดา อาศัยอยู่ นางเลยออกมาเฮ็ดกับข้าวเฮ็ดอยู่เฮ็ดกินถ่าท้าวกำพร้าผู้ออกไปเฮ็ดนา  ต่อมาพอท้าวกำพร้ากะเลยตีงาซ้างนั้นถิ่ม อยากอยู่กินกับนางคือจั่งผัวเมีย  ข่าวความงามของนางสีดาฮู้ไปฮอดพระราซา  พระราซาเห็นแล้วกะเกิดมักอยากยึดเอาแต่กะย้านคนเขาสิว่า เลยท้าท้าวกำพร้าแข่งขันต่างๆ ถ้าแม่นว่าท้าวกำพร้าแพ้สิยึดเอานางสีดามา แต่คันแม่นว่พระองค์แพ้สิยอมยกเมืองให้เคิ่งหนึ่ง  การแข่งขันกะมี ซนไก่ ซนงัว ส่วงเฮือ สุดท้ายท้าวกำพร้ากะซะนะเบิดซุอย่าง  การซนงัวหน้าเสือกะแปลงกายมาซ่อย การซนไก่อีเก็นกะแปลงเป็นไก่มาซ่อย กัดไก่พระราซาตาย  การแข่งส่วงเฮือนั้น พญาฮุ้งกะแปลงมาเป็นเฮือ เฮ็ดเฮือพระราซาล่มแล้วกินคนเทิงเบิด  พอแต่พระราซาตายเล้วกะเลยได้ฮ่วมกันกับบ่างโตหนึ่ง ให้บ่างฮ้องเอิ้นวิญญาณของนางสีดามา ฮ้องที่แฮกนางกะบ่มาย่อนว่าบ่ซำบาย เทื่อที่ 2 เลยสลบไป เทื่อที่ 3 นางเลยไปอยู่นำพวกปีผีทหารของพระราซา ทางฝ่ายท้าวกำพร้ากะเลยปรึกษากัน ผีน้อยว่าอย่าทันเผานางเถอะ คีงยังอุ่นๆอยู่ คือว่า นางนั้นบ่ทันตาย ผีน้องเลยนำเบิ่งเฮื่องที่งเทิงเบิดเลยฮู้ว่าต้องหาวิธีจับบ่างโตนั้น เลยวางแผนจับบ่าง  เข้าไปตีสนิทกับบ่าง  จากหั่นผีน้อยเลยหลบมาบอกให้นายพรานขายข้อง สิเอาไปบางอย่าง นางกะเลยไปหาบ่างตัวนั้นแล้วบอกว่า ถ้าเธอเข้าไปได้ท่านเข้าไปในห้องนั้น ท่านสิเป็นผู้วิเศษ บ่างอยากแสดงให้เห็นเลยเข้าไปในข้องแล้วกะเอาตีนถีบออกมาอย่างง่ายดาย ผีน้อยเลยเว้ากับบ่างว่า เจ้าแม่เป็นผู้วิเศษอีหลีน้อ บ่างกะเกิดหลงดีใจว่าจะของแม่นผู้วิเศษ  ผีน้อยเลยหลบมาหานายกำพร้าบอกว่าให้เอาลวดสานข้องแทนไม้ไผ่ แล้วกะฟ้าวไปหาบ่าง เลยบอกบ่างว่า คันแม่นเจ้าไขข้องหน่วยนี้ได้ ข้อยสิยอมเป็นทาสเจ้าตลอดไป ทางฝ่ายบ่างกำลังหลงจะของกะเลยมุดเข้าข้อ

ลวด แต่ว่าถีบจั่งได๋ ยังจั่งได๋กะบ่ออก ผีน้อยกะเลยหาฝามาปิดแล้วเอาไปให้นายกำพร้า แล้วบังคับให้บ่างฮ้องเอาวิญญาณนางสีดากลับคืนมาคันบ่เอิ้นสิฆ่าบ่างถิ่มเสีย บ่างกะเลยเอิ้นเอาวิญญาณนางสีดาหลบคืนมา  ฮ้องเทื่อแฮกมือนางสีดากะสั่นจักหน่อยตีงคีงจักหน่อย พอเอิ้นเทื่อที 2 นางกะฟื้น แต่กะยังคือคนไข้คนโซอยู่ บ่างกะเลยเอิ้นเป็นเทื่อที 3 นางสีดาเลยคืนเป็นปกติคือเก่า พอแต่นางสีดาคืนมาแล้ว บ่างกะเลยขอฮ้องให้นายกำพร้าปล่อยไปเสีย  แต่นายกำพร้าย้านว่าคันปล่อยไปแล้วบ่างโตนี้สิหลบไปหาพระราซาแล้วกะสิเอิ้นวิญญาณนางสีดาไปอีก กะเลยตั๋วบ่างว่า ข้อยขอเบิ่งแนวอันเจ้าใซ้เอิ้นวิญญาณแหน่ บ่างผู้ยังหลงใหลในคำซื่นซมยินดีกะเลยแลบลิ้นออกให้เบิ่ง นายกำพร้าเลยใซ้มีดฟันลิ้นบ่างจนขาด  บ่างกะเลยบ่สามารถเอิ้นเอาวิญญาณไผไปได้อีก ซาวเมืองเทิงหลายเลยเห็นว่านายกำพร้าผู้นี้เป็นผู้ซนะการแข่งขัน เลยพากันพร้อมใจยกเมืองให้นายกำพร้าครอบครองตามสัญญาของพระราซา  มีนางสีดาเป็นมเหสี ทั้งสองพระองค์กะซ่อยกันปกครองบ้านเมือให้อยู่ซุ่มกินเย็น จำเฮิญฮุ่งเฮืองตลาดไป

ตัวละคร    ท้าวกำพร้า  เป็นพระโพธิสัตว์เสวยชาติมาเพื่อใช้ชาติ ท้าวกำพร้าเป็นผู้ที่มีจิตใจดี มีปัญญาเฉลียวฉลาด

ต้นฉบับ   นิทานท้าวกำพร้าผีน้อย  คำกลอนโบราณอีสาน  เรียบเรียงโดย  จินดา  ดวงใจ

พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี  นิทานเรื่องกำพร้าผีน้อย สะท้อนให้เห็นวิถีทางการดำเนินชีวิตของคนภาคอีสาน การทำไร่ทำนา  การล่าสัตว์ วิธีการทำหัตถกรรม เช่น ข้องใส่ปลา  นอกจากนั้นยังให้คติธรรมทางพุทธศาสนา มีแนวคิดสำคัญตามแนวพุทธปรัชญาว่าด้วยเรื่องกรรม  ธรรมะย่อมชนะอธรรม  ความกตัญญูความรักในหลากหลายรูปแบบ

บัดนี้  กล่าวเถิงโพธิสัตว์เจ้าลงมาใช้ชาติ        เป็นกำพร้านอนแล้งพ่อตาย

  มารดาแก้วคุณโณล้นเกตุ                      ก็หากมรมิ่งเมี้ยนตายไปพร้อมพร่ำกัน

  แม้ว่าวงศาเชื้อตายายอาวปู่                   ก็บ่มีผู้เลี้ยงบาท้าวอยู่ดอม

  ทุกขะมอดไฮ้เชื้อโคตรวงศา                   ทั้งตายายกะบ่มีไผเลี้ยง

  บาก็อายุได้สิบหกปีขึ้นใหญ่มาแล้ว           มีท่อไปเที่ยวบ้านขอข้าวเพิ่นกิน 

  ขอบ่ได้คืนมาดายเปล่า                        เจ้าติ่วช้อยเวาวงผู้เดียว

bottom of page