ท้าวคันธนาม
เนื้อเฮื่อง
จักกล่าวเถิงบ้านหนึ่งในเมืองศรีสาเกตุ มีสาวทึนทึกอายุอานามกะเป็นสาว ใหญ่เติบแต่บ่มีผัว เฮ็ดอยู่เฮ็ดกินอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ สาวนางนี้มีนากลางนาของไทบ้าน ต่อมาฮอดเวลาฮอดเวลาที่เทวบุตร ผู้เป็นพระโพธิสัตว์สิลงมาเกิดในมนุษยโลก พอฮอดยามเกี่ยวข้าวพระอินทร์กะเลยแปลงกายมาเป็นซ้างใหญ่พญาฉัททันต์ ไปเหยียบย่ำนาข้าวของสาวผู้นั้นจนหมุ่นเบิดแล้วกะเลยหนีไปทางเบื้องหรดี(ทิศตะวันตกเฉียงใต้) ซ้างนั้นกะจ่งฮอยตีนไว้ให้ฮู้ให้เห็น ตื่นเซ้ามานางมาพ้อนาเสียหายกะเลยเสียอกเสียใจแล้วเทิงเคียดหลาย เลยหย่างนำหาสัตว์ว่าแม่โตอีหยังมาเหยียบนาจะของ ระหว่างทางนั้นนางเมื่อยเลยกินน้ำในฮอยตีนซ้างเลยเกิดมีท้องขึ้นมา อยู่ได้หว่างสิบเดือนกะเลยได้ออกลูก ได้ลูกซายเป็นตาฮักตาซัง ฮ่างกายสมบูรณ์แข็งแฮง แล้วกะมีดาบศรีขรรค์ซัยติดโตมานำ นายเลยให้ซื่อลูกซายว่า คันทะนาม ลูกซายกะเลยได้ซ่อยเหลือแม่เฒ่าเฮ็ดเวียกงานการสร้างน้อยใหญ่แต่ยังน้อย พออายุคันทะนามอายุได้ 7 ปีเลยถามหาพ่อ แม่เฒ่าเลยเว้าสู่ฟัง แล้วกะพาไปเบิ่งฮอยซ้างที่แม่ได้กินน้ำจนได้ท้อง พอแต่กำลังเว้ากันอยู่นั้นกะเกิดมียักษ์สิมาตีมาฆ่าแม่เฒ่า คันทะนามกะเลยเอาดาบศรีขรรค์ซัยต่อสู้กับยักษ์ ยักษ์ยอมแพ้กะเลยเอาน้ำเต้าวิเศษให้ แล้วกะเลยบอกหม่องเสี่ยงคำ(ซ่อนทอง) ให้ฮู้ เทิงสองแม่ลูกเลยไปหาคำขุมนั้น พอไปฮอดกะพ้อคำหลายบ่น้อย เฮ็ดให้สองแม่ลูกมีฐานะดีขึ้นแล้วกะแบ่งคำนั้นให้ซาวบ้านนำซุคู่ซุคน
พอแต่ท้าวคันทะนามอายุอานามได้ 16 ปี ข่าวกะล่ำลือว่าท้าวคันทะนามผู้นี้สามารถปราบยักษ์ได้ฮู้ไปฮอดหูขอเจ้าเมืองศรีสาเกตุ พระองค์กะเลยสั่งให้ไปเอาโตท้าวคันธนามมาเข้าเฝ้า แล้วสั่งให้ทดลองหลก(ถอน)ต้นตาล 2 ต้น ที่มันขวางทางอยู่ ท้าว คันทะนามกะหลกได้ แล้วกะเลยเหาะขึ้นเทิงฟ้าอากาศแก่งกกตาลอย่างเต็มแฮง พระยาศรีสาเกตุเห็นจั่งซั่นกะเลยแต่งตั้งให้คันทะนามเป็นอุปฮาดแล้วกะเฮ็ดผาสาดให้เป็นหม่องประทับอยู่ในเมือง ท้าวคันทะนามกะเลยพาแม่เฒ่ามาอยู่นำ แล้วกะเลยเอาน้ำเต้าวิเศษฮดลงในกายแม่เฒ่า แม่เฒ่านั้นกะเลยเป็นสาวงามจนเจ้าเมืองมาขอไปเป็นมเหสี
อยู่มาฮอดมื้อหนึ่ง ท้าวคันทะนามเลยขอลาแม่ไปนำหาพ่อ ท้าวคันทะนามหย่างนำฮอยซ้างไปฮอดเมืองอินทปัดถา ระหว่างทางกะไปพ้อซายฮ้อยเล่มเกวียนกำลังลากเกวียน 500 เล่ม ท้าวคัดทะนามเลยไปประลองโดยดึงเกวีบนเล่มสุดท้ายไว้ ซายฮ้อยเล่มเกวียนดึงบ่ได้กะเลยได้ประลองวิซากัน สุดท้ายซายฮ้อยเล่มเกวียนกะสู้บ่ได้เลยขอติดตามเป็นทาส ต่อมากะไปพ้อซายไม่ฮ้อยกอ ท้าวคันทะนามกะเลยไปประลองกำลังจับไม้ที่กำลังถืกลาก ซายไม้ฮ้อยกอเคียดเลยเกิดการต่าสู้ คันทะนามซะนะ ซายไม้ฮ้อยกอเลยยอมเป็นทาส เทิงสามคนเดินทางไปนำหาพ่อของท้าวคันทะนาม ไปฮอดป่าหิมพานต์ กะเลยแนมเห็นจินายโม้กำลังขุดขวย ขี้ดินฟ้งข่วมน้ำโขงไปตกเลาะเมืองเวียงจันทร์ ท้าวคันทะนามเลยลงไปจับได้ขาจินาโม้ดีด ขาเลยขาด ท้าวคันทะนามกะเลยเอาขาจินายโม้มาหาหมู่เทิงสองคน แล้วพากันไปขอไฟอยู่ตูบของยักษ์ สองคนนั้นถืกยักษ์จับหาขา ท้าวคันทะนามกะเลยเอาดาบศรีขรรค์ซัยต่อสู้ยักษ์จึงยอมแพ้ แล้วกะเลยให้ไม่เท้าวิเศษ กกซี้ตาย ปลายซี้เป็น แล้วกะ พิณวิเศษ ให้แก่ท้าวคันทะนาม ท้าวคันทะนามกะเลยใซ้น้ำเต้าฮดหมู่ทั้งสองจั่งออกเดินทางต่อไปได้
เทิงสามคนเดินทางมาฮอดเมืองขวางทะบุฮี กะพ้อว่าเป็นเมืองฮ้างบ่มีคนอยู่อาศัย หย่างไปกลางเมืองเลยไปพ้อกลองใหญ่หน่วยหนึ่ง เลยลองตีแล้วกะมีเสียงฮ้องของแม่ญิงดังมาแต่ในกลอง กะเลยใว้มีดปาดหน้ากลองออกเลยพ้อสาวงามซื่อว่านางกองสี เป็นลูกาวเจ้าเมือง ที่เจ้าเมืองเอามาเสี่ยงไว้ ให้ฮอดพ้นภัยจากงูซวง ส่วนว่าเจ้าเมืองกับเทิงไพร่พลซาวบ้านซาวเมืองถืกงูซวงกินเบิดแล้ว ย้อนว่าเจ้าเมืองแลซาวเมืองประพฤติผิดฮีตครองธรรม นางกองสีบอกว่า คันแม่นดังไฟขึ้นงูซวงเห็นแล้วกะสิลงมาอีก ท้าวคันทะนามเลยก่อไฟกองใหญ่ให้หุ่งไปฮอดแถน งูซวงเลยพากันลงมาหลายบ่น้อยท้าวคันทะนามกับหมู่ทั้งสองคนเลยซ่อยกันฆ่างูซวงตายถิ่มเบิด ท้าวคันทะนามเลยเอาไม่เท้าวิเศษซุบซีวิตซาวบ้านซาวเมือง ตลอดจนพระราซา กองกระดูกเทิงหลายกะหลบมามีซีวิตคือเก่า พระราซาเลยดีใจ ยกเมืองขวางทะบุฮีแลนางกองสีในแก่ท้าวคันทะนาม ท้าวคันทะนามเลยให้ซาย ไม้ฮ้อยกอเป็นฮุปฮาด ให้นายเกวียนฮ้อยเล่มเป็นนายแสนเมือง
อยู่ต่อมาได้บ่ดน ท้าวคันทะนามกะต้องออกนำหาพ่อต่อไป เลยฝากเมืองขวาง ทะบุฮีไว้กับหมู่เทิงสอง แล้วกะไปฮอดเมืองจำปานคร ได้นางสีไส ลูกสาวมหาเศรษฐีของเมืองนั้นเป็นเมีย ได้ลูกซายนำกันผู้หนึ่งซื่อว่า คัดซะเนก มื้อหนึ่งเจ้าเมืองจำปานครได้เสด็จประพาศป่าไม้ไปพ้อยักษ์ ยักสิจับกิน พระยาจำปาเลยขอซีวิตไว้ แล้วสิให้มนุษย์กินมื้อละคน เจ้าเมืองเลยเอานักโทษไปไว้หอผีให้ยักษ์จับกินมื้อละคน พอเบิดนักโทษเจ้าเมืองเลยคึดว่าสิยอมให้ยักษ์กินจะของเสีย ย้อนว่าคันแม่นไปเอาคนบ่มีความผิดมาให้ยักษ์กินกะสิบ่เบิดเวรเบิดกรรม พอฮู้จั่งซั่น นางสีดา เป็นลูกสาวกตัญญูฮู้คุณพ่อเลยยอมอาสาไปให้ยักษ์กินแทน สุดท้ายพ่อเลยยอมก่อนไปอยู่หอผีเป็นอาหารยักษ์ เลยขอเฮ็ดบุญแจกทานให้แก่ซาวบ้านซาวเมือง พอแต่ทางฝ่ายท้าวคันทะนามเห็นซาวบ้านซาวเมืองพากันฮ้องไห้ฮ่ำฮอน เลยสงสัยแล้วไปถามเฮื่องฮาวนำแม่เฒ่ากะเลยฮู้เฮื่องฮาวเทิงเบิดเลย ตกฮอดยามเดิก ท้าวคันทะนามเลยเหาะไปหานางสีดาอยู่หอผีกลางเมือง แล้วปลอบนางสีดาว่าบ่ต้องย้าน พอแต่ยักษ์มาเถิงท้าวคันทะนามกะเลยฆ่ายักษ์ตาย แล้วเอาซากยักษ์ไปถิ่มอยู่หนองน้ำ แล้วกะมาหานางสีดาอยู่หอผีกลสงเมือง นางเลยขอให้พาไปส่งอยู่ตำหนัก ท้าวคันทะนามเลยว่ามันบ่ดี ย้านซาวบ้านซาวเมืองเอาไปเว้าพื้นนินทาว่านางเฮ็ดมารยาคบซู้ ท้าวคันทะนามเลยลาเมือเฮือนด้วยความฮ่ำฮอนใจ ก่อนสิจากกันท้าวคันทะนามเลยตัดผ้าแสนคำ ไว้ให้นางสีดา ไว้เบิ่งแทนหน้า นางสีดาเลยเอาแหวนให้ตอบแทน เทิงสองเลยลาจากกัน
ฝ่ายทางพระยาเมืองนครจำปาฮู้เฮื่องเทิงเบิด กะดีใจ ฮู้ว่าท้าวคันทะนามเป็นผู้มีบุญวาสนาดี มีฤทธิ์หลาย มีบุญญาธิการมาซ่อยบ้านเมืองจำปานครไว้ได้ เลยยกบ้านเมืองให้ปกครอง ให้นางสีดา ลูกสาวตนให้เป็นมเหสีเบื้องขวา ให้นางสีไล ลูกสาวมหาเศรษฐี เป็นมเหสีเบื้องซ้าย พระยาจำปานครกะเลยให้มีการคบงันสลองการขึ้นตั่งนั่งครองเมืองของท้าวคันทะนาม
ต่อมาท้าวคันทะนามกะเลยล่ำลาเจ้าเมือง เลยออกเดินทางพร้อมกับมเหสีทั้งสองแลซาวเมืองไปนำหาพญาซ้างฉัททันต์พ่อของตน ไปจนฮอดเขตป่าหิมพานต์ กะได้พ้อกับพ่อพญาซ้างฉัททันต์สมใจหมาย พญาซ้างเลยสั่งสอนลูกซายหลายสิ่งหลายอัน แล้วยกงาให้คู่หนึ่ง พอแต่ซ้างพญาฉัททันต์ผู้พ่อเบิดอายุขัย ท้าวคันทะนามเลยเมี้ยนกระดูกหลังฝังกระดูกข้างพ่อของตน แล้วกะเลยขี่ซ้างหลบคืนเมือบ้านเมืองจะของ
ตัวละคร ท้าวคันธนาม เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญยิ่ง มีความเก่งกล้าสามารถในการสู้รบกับศัตรู
ต้นฉบับ ท้าวคันธนาม ปริวรรตโดย นายอัมพร นามเหลา ภาควิชาบรรณารักษ์ศาสตร์ วิทยาลัยครูนครราชสีมา ได้รับการสนับสนุนการปริวรรตจากศูนย์วัฒนธรรม จ.นครราชสีมา
ต้นฉบับท้าวคันธนามที่นายอัมพร นามเหลานำมาศึกษาและปริวรรต คือ ต้นฉบับที่ห้องสมุด วัดบ้านมะเกลือเก่า ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
ต้นฉบับท้าวคันธนาม อักษรธรรม ๑ ผูก วัดท่าลาด ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี
พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี ความกล้าหาญและความชาญฉลาดของท้าวคันธนาม เป็นคุณสมบัติข้อสำคัญของกษัตริย์ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนทั่วไป และมีตอนที่กล่าวให้เห็นผลของวิบากกรรม คือตอนที่พระยาจำปาต้องหาคนให้ไปเป็นอาหารของยักษ์จึงใช้นักโทษที่กระทำผิด เมื่อนักโทษหมดแล้วพระองค์ก็ไม่อยากนำคนบริสุทธิ์ไปให้ยักกินเพราะกลัวเป็นบาปกรรมติดตัว
ตโต ปฏฺฐาย ตั้งแฮกแต่ย่าเฒ่าผู้นั้นแล ไปกินน้ำฮอยช้างแลก็ทรงครรภ์ได้สิบเดือนแล้ว ก็ประสูติได้ยังลูกชายผู้หนึ่งแล้ว มีบุญสมภารอันมากนักในโลกอันนี้แท้ดีหลีแล แต่นั้นส่วนอันว่า “คันไชยศรีทิพย์” ดวงหนึ่ง ก็ตกลงมาหากุมารน้อยผู้นั้น ก็เป็นประดุจดั่งแก้วมณีโชติมีแล ส่วนอันว่าชื่อแห่งกุมารน้อยผู้นั้น อันคนทั้งหลายหากใส่ชื่อตามคันไชยศรีดวงนั้น ก็ใส่ชื่อว่า “ท้าวคันธนกุมาร” แท้แล