top of page

นางผมหอม

เนื้อเฮื่อง

นางสิบสองเป็นลูกเศรษฐี ซึ่งมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับชาวบ้านในตำบลนั้นเป็นอย่างยิ่งแต่เดิมเศรษฐีและเมียยังบ่มีลูก จึงได้อธิษฐานขอลูกจากเทวดา เทวดาจึงให้นางสิบสองมาเกิดเป็นลูกเศรษฐี

เมื่อเศรษฐีมีลูก ๑๒ คน ก็เกิดยากจนถึงขนาดบ่มีอันจะกิน ฐานะที่เคยร่ำรวยกะตกต่ำลงอย่างคัก จนในที่สุดกะออกกลอุบายตั๋วเอาลูกไปปล่อยไว้ในป่า ให้นางทั้งสิบสองคนผจญชีวิตอยู่ในป่า นางสิบสองซึ่งมีนางเภาเป็นคนสุดท้อง นางเภาเพิ่นเป็นคนที่มีหน้าสวยงาม เป็นคนใจดีมีเมตตาผิดกับเอื้อยๆของเพิ่น ทุกคนจั่งใด้รอนแรมอยู่ในป่า แล้วหลงทางเขาไปในเมืองของนางยักษ์ชื่อ สันทะมาลา  

กล่าวเถิงนางสันทะมาลาเพิ่นบ่เคยมีลูกมาก่อนเลย กะได้เห็นนางสิบสองคนเข้าก็มีใจเมตตาอยากเลี้ยงไว้จนกระทั่งนางทั้งสิบสองเติบใหญ่เป็นสาว และได้ฮู้ความลับว่านางสันทะมาละเพิ่นเป็นยักษ์ย้อนไปพ่อโครงกระดูกอยู่ในอุโมงค์ใหญ่ นางทั้งสิบสองมีความย่านกลัวจึงได้พยายามหลบหนีออกมาจากอุโมงค์รอดพ้นจากเมืองของนางสันทะมาละ

ในตอนนั้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าชายรถสิทธิ์ได้เสด็จออกประพาสป่า และได้มาพบกับนางทั้งสิบสองคน พระองค์ก็ทรงพึงพอใจในความงามของนางทั้งสิบสองจึงได้พานางทั้งสิบสองไปเลี้ยงเพื่อนเป็นพระมเหสี เฮ็ดความโกรธแค้นให้นางสันทะมาลาอย่างหลาย ต่อมานางสันทะมาลาได้ออกอุบายที่จะแกล้งนางทั้งสิบสองคน จึงได้แปลงกายเป็นสาวผู้มีคิงงามหยาดฟ้าเข้ามาพ่อ

ท้าวรถสิทธิ์ในเมือง เมื่อท้าวรถสิทธิ์ได้พ่อนางสันทะมาลากลายเป็นสาวงามแบบนั้น ก็เกิดความลุ่มหลงในโตนางสันทะมาลาถึงกับลืมนางทั้งสิบสองคน และได้สั่งให้จับไปขังใว้ในอุโมงค์เมื่อนางทั้งสิบสองคนพยายามบอกว่านางเป็นยักษ์แปลงร่างมาเพิ่นบ่แม่นสาวงามอย่างที่ท้าวรถสิทธิ์เข้าใจแต่อย่างใด นางสันทะมาลาเคียดแค้นนางทั้งสิบสองอย่างหายนางจึงแกล้งล้มป่วยแล้วบอกกับท้าวรถสิทธิ์ว่า จะต้องได้ลูกตาของทั้งสิบสองคนมาเป็นยาปัวรักษาจั่งจะหาย  ท้าวรถสิทธิ์ที่กำลังลุ่มหลงในความงามของนางสันทะมาลาเพิ่นกะเชื่อแล้วสั่งให้ควักลูกตาของนางทั้งสิบสองคนเพื่อที่สิเอามาเฮ็ดเป็นโตยาโดยยกเว้นนางเภา  นางเภาซึ่งเป็นมเหสีองค์สุดท้ายว่าให้ควักเพียงข้างเดียวเพื่อที่นางจะได้สามารถเห็นโลกนี้ได้จากตาอีกข้างหนึ่ง ต่อมานางเภาเพิ่นกะได้คลอดลูกอยู่ในอุโมงค์ชื่อว่า รถเสน รถเสนเป็นเด็กน้อยที่ฮู้กตัญญูต่อแม่กับป้า ได้แอบหลบหนีออกมาจากอุโมงค์มาหาข้าวกับน้ำไปให้แม่กับป้ากิน

จนมื่อหนึ่งรถเสนได้ไปชนะพนันไก่ตีในหมู่บ้าน และขอข้าวทั้งสิบสองเพื่อที่จะเอาไปให้แม่กับป้าที่อยู่ในอุโมงค์ ซึ่งเป็นที่สงสัยให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างหลาย แต่กะบ่มีไผ๋กล้าเว่าออกมาได้แต่ถ่าเบิ่งว่ารถเสนสิเฮ็ดจั่งใด๋ต่อไป

กล่าวเถิงนางสันทะมาลาทิ่มบ้านทิ่มเมืองเป็นเวลาโดนกะอดที่จะคิดฮอดบ้านเมืองบ่ได้ จึงได้มีราชสาส์น ฮอดนางเมรีที่เป็นลูกของนางที่เลี้ยงมาแต่น้อยคือกับกับนางสิบสอง บอกว่าตอนนี้นางมีความสุขสำบายดี บ่ต้องเป็นห่วง และคิดหาอุบายตลอดว่าสิกลับบ้านเมืองได้จั่งใด๋

 

ต่อมาท้าวรถสิทธิ์เริ่มสงสัยจากชาวบ้านและอำมาตย์ที่ออกไปนอกหมู่บ้านว่ามีเด็กน้อยหน้าตาดีลักษณะท่าทางแปลกหลายกว่าเด็กน้อยทั่วๆไป กะเริ่มสงสัยและสั่งอำมาตย์ให้พาเด็กน้อยผู้นี้ไปเข้าเฝ้า  ขณะนั้นรถเสนก็เริ่มใหญ่เป็นบ่าวแล้วกะเข้าเฝ้าและได้พ่อพระบิดา แล้วได้เล่าความจริงให้ฟังทั้งเบิดว่า ตอนนี้แม่กับป้าตาบอดอยู่ในอุโมงค์ ซึ่งท้าววรถสิทธิ์ยังลุ่มหลงในโตนางสันทะมาลาอยู่กะบ่ได้คิดที่จะซ่อยเหลือหรือว่าเอาโตเอาโตนางทั้งสิบสองออกมาแต่อย่างใด รถเสนจึงคิดว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าของที่จะต้องตอบแทนบุญคุณของแม่กับป้าในเทื่อนี้ให้ได้ ซึ่งได้เฮ็ดความโมโหให้กับนางสันทะมาลาเป็นอย่างหลายเพราะว่าตอนนี้รถเสนเข้ามาเป็นศัตรูอีกผู้หนึ่งแล้ว จึงได้ออกอุบายให้รถเสนถือราชสาส์นของนางไปให้นางเมรี ในสาส์นนั้นเขียนว่าฮอดยามมื่อเวนกะฆ่ายามมื่อเวน ฮอดกลางคืนกะฆ่าตอนกลางคืน แล้วให้ท้าวรถเสนถือไปให้นางเมรีทันที ในระหว่างที่เดินทางไปนั่น รถเสนมีความเมื่อยอ่อนอย่างหลายจึงได้นอนหลับใต้ต้นไม้แต่ใกล้ๆตรงนั้นมีพระฤๅษีองค์องค์หนึ่งอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นพระฤๅษีที่หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทรทั้งเบิด กะฮู้ว่ารถเสนต้องไปตายแท้ๆ จึงจัดการแปลงข้อความในสาส์นให้เสียใหม่ คือถ้าไปฮอดยามมื่อเวนให้แต่งงานยามมื่อเวน ถ้าฮอดตอนกลางคืนกะให้แต่งตอนกลางคืน บาดรถเสนตื่นขึ้นกะถือราชสาส์นไปหานางเมรี นางเมรีเมื่ออ่านจบแล้วก็ฮู้สึกสงสัยว่าเป็นหยังนางสันทะมาลาผู้เป็นแม่คือได้ส่งคู่ครองมาให้ รถเสนก็หน้าตาดีเป็นบ่าวฮูปงามพอที่จะเป็นสวามีปกครองเมืองได้ จึงเต็มใจฮับรถเสนให้อยู่ในเมืองตั้งแต่นั้นมา

 

เมื่อรถเสนได้มาอยู่กินกับนางเมรี นางเมรีกับมีความรักใคร่หึงหวงในโตรถเสนเป็นอย่างคัก ถึงกับสั่งห้ามบ่ให้ออกไปใสมาใสเพราะย่านไม่ฮู้ความลับของนางสันทะมาลาผู้เป็นแม่ที่เพิ่นเลี้ยงเจ้าของมา มื่อหนึ่งรถเสนได้ออกอุบายให้นางเมรีพาเที่ยวชมราชวังให้ทั่ว เพราะอยากสิฮู้ที่เก็บลูกตาของนางทั้งสิบสองคน เมื่อรถเสนถามนางเมรีเพิ่นบ่ฮู้ความจริงว่าเป็นมาจั่งใด๋เพิ่นกะเว่าให้สวามีเพิ่นฟังจนเบิด รถเสนกะพยายามออกอุบายหาทางเอาลูกตากลับคืนไปใส่ให้แม่กับป้าให้ได้ จนกระทั่ง

มื่อหนึ่งรถเสนเพิ่นกะได้โอกาสมอมเหล้านางเมรีจนบ่ได้สติ แล้วเจ้าของกะลอบออกจากราชวังและลักเอาดวงตาของนางทั้งสิบสองแล้วหนีนางเมรีออกมา บาดตื่นขึ้นบ่พ่อรถเสนนางกะฮู้สึกเสียใจว่ารถเสนต้องหนีนางไปแท้ ๆ จึงไปนำออกมาและในตอนที่เกือบจะทันกัน รถเสนกะฮักและสงสารนางแต่ความฮักของแม่กับป้าหลายกว่า จึงได้ใช้ห่อยาวิเศษที่ฤๅษีให้ติดโตมาขว้างลงไป กลายเป็นน้ำกรดกั้นนางเมรีไว้บ่ได้นำรถเสนมาทัน นางเมรีจึงได้อธิษฐานว่าชาตินี้นางนำรถเสนมาด้วยความฮักเมื่อฮอดชาติหน้าขอให้รถเสนเป็นฝ่ายติดตามนางไปบ้าง แล้วนางกะสิ้นใจตาย รถเสนจึ่งเอาตามารักษาแม่กับป้าจนเซาดี และขึ้นไปกราบทูบให้ท้าวรถสิทธิ์ผู้เป็นพระบิดาฮู้เรื่องราวทั้งเบิด นางสันทะมาลาเห็นว่าเจ้าของมีความผิดกะได้ขอชีวิตไว้แล้วอ้างว่าเจ้าของมีลูกอยู่ในท้องกับท้าวรถสิทธิ์ ขอให้เห็นใจแล้วกะเหลือโตน นางเภาจึงมีใจเมตตาได้ขอร้องให้ปล่อยานงไปเสียอย่าได้ฆ่านางเถาะ ท้าวรถสิทธิ์เชื่อเพราะว่าท้าวรถเสนและนางทั้งสิบสองได้ซ่อยกันอ้อนวอน จึงได้ปล่อยนางกลับไปตั้งแต่นั้นมาพ่อแม่ลูกทั้งสิบสองกะได้มีชีวิตอยู่ต่อมาด้วยความสงบสุข

ตัวละคร     นางเภา  น้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง ๑๒ คน  มีจิตใจโอบอ้อมอารี

                        รถเสน   เป็นคนที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี

 

ต้นฉบับ     เล่าเรื่องนางสิบสอง เรียบเรียงโดย รศ. วิเชียร เกษประทุม พิมพ์เผยแพร่เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑

พุทธศาสนาและความเชื่อหรือประเพณี    วรรณกรรมเรื่องนางสิบสอง หรือรถเสนชาดก ให้คติเรื่องความกตัญญูกตเวทีตา ต่อผู้มีพระคุณต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ   ความดีจักส่งผลให้ชีวิตมีความสงบสุข

            กันแสงพลางทูลองค์พระทรงศักดิ์               โรคน้องเหลือจักรักษา

  ด้วยว่าเคยเป็นเช่นนี้มา                                          อยู่พาราเคยแปรแก้คลาย

            ได้กินลูกตาคนมีท้อง                                  ทั้งสิบสองคนหมดกำหนดหาย

  นี่จากบ้านเมืองมาเอกากาย                                   ไหนจะได้สมหมายคงวายปราณ

bottom of page