หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวำเภองสะพุง จังหวัดเลย
ประวัติ
พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐาสโม มีชาติกำเนิดในสกุลแก้วสุวรรณเดิมชื่อบ่อ เกิดเมื่อวันที่ ๑๒กุมภาพันธ์พ. ศ. ๒๔๔๔ ตรงกับวันพุธขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๓ ปีฉลู บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุงจังหวัดเลย โยมบิดาชื่อ มอ โยมมารดาชื่อ พิลา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๔ คนเป็นชาย ๒ เป็นหญิง ๒ มีชื่อเรียงกันตามลำดับคือ
๑. ตัวท่าน บ่อ แก้วสุวรรณ
๒. น้องสาว ชื่อ พา แก้วสุวรรณ
๓. น้องสาว ชื่อ แดง แก้วสุวรรณ
๔. น้องชายสุดท้อง ชื่อ สิน แก้วสุวรรณ
ทั้งน้องสาวและน้องชายรวม ๓ คนนี้ปัจจุบันถึงแก่กรรมไปตามกาลเวลาหมดแล้ว ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดเลย มีอาชีพหลักคือการทำนา แต่โดยพื้นที่เป็นภูเขาเป็นส่วนใหญ่การทำนาต้องอาศัยไหล่เขายกดินเป็นขั้นบันไดเป็นชั้น ๆ ไปจึงจะปลูกข้าวได้ แม้จะลงแรงทำงานหาเลี้ยงกันอย่างไม่ยอมเหนื่อยต้องทำไร่ตามรอยเพิ่มเติมแต่ก็ไม่ค่อยพอปากพอท้อง โดยเฉพาะบางปีถ้าฝนแล้ง ข้าวไม่เป็นผล พืชล้มตายก็อดอยากแร้นแค้น จึงได้คิดโยกย้ายไปแสวงหาถิ่นทำกินใหม่ซึ่งจะเป็นที่ราบลุ่มอันไม่เป็นที่โดยที่เขาเช่นแต่ก่อน
ตระกูลของท่านพากันอพยพมีความอัตคัดฝืดเคือง มาหาภูมิลำเนาใหม่ ผ่านหุบเหวภูเขาสูงของอำเภอด่านช้าง ผ่านป่าดงพงทึบของภูเรือ ภูฟ้า ภูหลวง ได้มาพบชัยภูมิใหม่เหมาะ คือที่บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง ยังเป็นที่รกร้างว่างเปล่าใกล้หุบห้วย เหมาะแก่การเพาะปลูก จึงช่วยกันหักร้างถางป่าออกเป็นไร่นาสาโท คงยึดอาชีพหลักคือการทำนาเช่นเดิม
ณ ที่บ้านโคกมนนี่เอง ที่เด็กชายบ่อ บุตรชายคนหัวปีของสกุลแก้วสุวรรณได้ถือกำเนิดมาเป็นประโยชน์พญาช้างเผือกที่มีกำเนิดจากกลางไพรพฤกษ์ ทำให้ชื่อป่าที่เกิดของพญาช้างเผือกนั้นเป็นที่รู้จัก ขจรขจายไปทั่วสารทิศ ฉันใด หลวงปู่ก็ทำให้ชื่อ “หมู่บ้านโคกมน” บ้านที่เกิดของท่านเป็นที่รู้จัก เป็นที่จารึกแสวงบุญของบรรดาชาวพุทธทั่วประเทศ ฉะนั้นชีวิตตอนเป็นเด็กของท่าน นับว่ามีภาระเกินวัย ด้วยเกิดมาเป็นบุตรหัวปี ต้องมีหน้าที่ช่วยบิดาทำการงานในเรือกสวนไร่นา พร้อมทั้งต้องทำหน้าที่ดูแลน้อง ๆ หญิงชายทั้ง ๓ ด้วย
บ้านโคกมนในปัจจุบันนี้ แม้ว่าผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจะคุยให้เราฟังว่า มีความเจริญขึ้นกว่าเมื่อเจ็ดสิบแดสิบปีก่อนอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ในสายตาของเราชาวกรุงก็ยังเห็นคงสภาพเป็นบ้านป่าชนบทอยู่มาก ดังนั้นหากจะนึกย้อนกลับไปสมัยที่ท่านยังเป็นเด็กเล็กอยู่ ณ ที่นั่นบ้านเกิดของท่าน ก็คงมีลักษณะเป็นบ้านป่าเขาที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง สมาชิกทุกคนในครอบครัว ต้องช่วยกันตัวเป็นเกลียวโดยไม่เลือกว่าผู้ใดใหญ่หรือเล็ก ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่ต้องไถ หว่านปากกล้า ดํานา เด็ก ๆ ก็ต้องเลี้ยงควาย คอยส่งข้าวปลาอาหาร เด็กโตหรือลูกหัวปีอย่างท่าน ก็ต้องช่วยในการไถ ปักกล้า ดำนา ด้วยขณะเดียวกันก็ต้องคอยดูแลน้องน้อง กลับจากทำนา ก็ต้องช่วยกันหาผักหญ้า หนอหวาย หน่อโจด หน่องบง หน่อไม้ รู้จักว่ายอดอ่อนของต้นไม้ชนิดใดในป่าในท้องนาควรจะนำมาเป็นอาหารได้ ยอดติ้วใบหมากเม่าผักกระโดน
โดยมากเด็กชายบ่อจะพอใจช่วยบิดามารดา ทางด้านเรือกสวนไร่นาส่วนมากกล่าวว่าคือ จะช่วยเป็นภาระทางด้านเลี้ยงควาย ไถนา เกี่ยวข้าว หาผักหญ้า แต่ด้านการหาอาหารที่ต้องเกี่ยวเนื่องด้วยชีวิตผู้อื่น เช่น การจับปู ปลา หากบ เขียด มาเป็นอาหารประจำวันอย่างเด็กอื่น ๆ นั้นท่านไม่เต็มใจจะกระทำเลย ยิ่งการเล่นยิงนก กระรอก กระแต ที่เด็กต่าง ๆ เห็นเป็นของสนุกนั้น ท่านจะไม่ร่วมวงเล่นด้วยอย่างเด็ดขาดพูดง่าย ๆ ท่านไม่มีนิสัยปาณาติบาตมาแต่เด็กนั่นเอง
โอวาทธรรม
หลวงปู่มักจะเทศน์เรื่อง ไตรสรณคมน์หรือศีล ๕ มากกว่าธรรมข้ออื่น ซึ่งดูเผินเผินเหมือนเป็นหญ้าปากคอกแต่ท่านว่านี่แหละคือ รากฐานของการบำเพ็ญเพียรภาวนาถ้าไม่มีฐานไม่มีศิลป์รองรับก็ยากจะดำเนินความเพียรได้ เพราะ
อาทิ สีล ปติฏฐา จ กลยาณญจ มาตก
ปมข สพพธมมาน ตสมา สีล วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมาดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั่วไป เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุมธิ์
หลวงปู่จะเทศ เป็นวลีสั้น ๆ ประโยคสั้นๆ แต่ก็เป็นธรรมที่ลึกซึ้ง ถ้าปฏิบัติได้ปฏิบัติจริง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ และพิจารณาได้ พิจารณา จึงพิจารณา ถูกพิจารณาตรง พิจารณาชอบ
…แน่นอน มรรคผลนั้นคงอยู่แค่เอื้อมนั่นเอง
เทศน์ที่สั้นที่สุด วาง
พิจารณาตน วางตัวเจ้า
ของจิตตะไนย์อิทธิบาท ๕ เอาใจใส่
มรณานุสสติ
ให้พิจารณาความตาย…
นั่งตาย
นอนตาย
ยืนตาย
เดินตาย