top of page

หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ

วัดศรีสุทธาวาส (เลยหลง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย

ประวัติ

    หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ  ชื่อเดิม ศรีจันทร์ จันทิหล้า เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๔๗ เกิด ณ บ้านฟากเลย ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย บิดาของท่านชื่อ อมาตย์ เพี้ยฤทธิ์ มารดาของท่านชื่อ นางตุ๊ จันทิหล้า ท่านหลวงปู่ศรีจันทร์เป็นบุตรคนที่ ๑๒ ตระกูลจันทิหล้าเป็นครอบครัวที่อุดมสมบูรณ์มากมีญาติมิตรมากมาย เพราะบิดาของท่านหลวงปู่เพี้ย ซึ่งเป็นชื่อตำแหน่งของข้าราชการในภาคอีสาน


    นับได้ว่าหลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ เป็นบุตรของข้าราชการไทยในยุคหนึ่งนั่นเอง และท่านได้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติในฐานะที่ท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งอย่างสมเกียรติ สมัยหลวงปู่ศรีจันทร์ยังเป็นเด็กท่านได้รับความอบอุ่นจากบิดามารดา ตลอดจนญาติพี่น้องทั้งหลาย พออายุได้เกณฑ์เข้าโรงเรียนบิดาของท่านได้นำไปฝากเพื่อศึกษาเล่าเรียน ณ โรงเรียนประจำอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย


    ในชีวิตปฐมวัย ท่านสามารถศึกษาเล่าเรียนในเกณฑ์ดีพอใช้ กิริยามารยาทของท่านนั้นตามปกติแล้ว เป็นเด็กที่เชื่อฟังบิดามารดาและญาติพี่น้องเสมอ เมื่อได้มาอยู่โรงเรียนจึงเป็นที่รักใคร่ของครูบาอาจารย์มาก ท่านเป็นคนเงียบ พูดน้อย มีสติปัญญามาแต่เด็ก ใจของท่านนั้นมีความเมตตา ปรานี อ่อนโยน มีความสงสารสัตว์ไม่ชอบการเบียดเบียนไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ท่านมีความเข้าใจว่าทุกชีวิตที่เกิดมาย่อมมีความรักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นการเบียดเบียนจึงเป็นเหตุให้ผู้ถูกเบียดเบียนเกิดทุกขเวทนา มีเวรกรรมต่อกันหาที่สิ้นสุดลงไม่ได้


     ส่วนผู้ที่เบียดเบียนผู้อื่นก็ไม่มีความสุข เกิดทุกข์ มีบาปกรรม อีกทั้งยังส่งผลให้ได้รับทุกขเวทนาเช่นกัน ฉะนั้นความคิดเช่นนี้ ท่านจึงพึงระวังไม่ให้เกิดบาปกรรมและระมัดระวังมาตั้งแต่สมัยเด็กจนได้รับบรรพชาอุปสมบท การศึกษาของท่านสามารถเรียนจบชั้นประถมบริบูรณ์ (ชั้น ป.๓) ในสมัยนั้น


    ในกาลต่อมา หลวงปู่ศรีจันทร์ ได้ความคิดเห็นจากบิดามารดาของท่านให้เพิ่มวิชาความรู้เพื่อจะได้นำความรู้นั้น ๆ มาประกอบกิจชีวิตอันดีงาม การศึกษาในสมัยนั้นยังไม่กว้างขวางอย่างเช่นปัจจุบัน ถ้าบุคคลใดมีความประสงค์จะก้าวหน้าต่อไป ก็จำเป็นที่จะต้องศึกษาในแหล่งนักปราชญ์ราชบัณฑิต ซึ่งเป็นวัดวาอารามนั่นเองที่เป็นแหล่งศึกษาแก่กุลบุตรผู้หวังความเจริญ


    ใน พ.ศ. ๒๔๑๖ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดศรีชมชื่น ตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๑๖ ได้รับความเมตตาจากพระครูหวดเป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๑๕ ปีเต็ม เนื่องจากได้บวชสามเณรแล้วท่านมีจิตใจรักในทางศึกษามากอยู่แล้ว ท่านจึงเข้าศึกษาด้านพระปริยัติธรรม


    การศึกษาพระวินัยนั้น ท่านมีความสนใจมากในการศึกษาด้านการปกครองหมู่คณะ ท่านจึงได้ออกเดินทางมาอยู่จำพรรษาที่กรุงเทพฯ และได้พำนักที่วัดสัมพันธวงศ์ ภายหลังท่านได้รับความเมตตาอันสูงสุดให้ได้ แปรญัตติเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุตเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๒ โดยได้รับพระเมตตาจากพระเดชพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต นพวงศ์) เป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ พระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์


    หลวงปู่ศรีจันทร์ (ในสมัยเป็นสามเณร) ท่านได้มานะพยายามเป็นยิ่งยวด ศึกษาธรรมวินัยอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะท่านได้รับความเอ็นดูจากพระอุปัชฌาย์จารย์และครูบาอาจารย์ผู้ฝึกสอนจนมีความรู้ความเข้าใจขึ้นอีกมากมาย และยังเป็นที่ไว้วางใจจากครูบาอาจารย์เป็นพิเศษ เมื่อได้บรรพชาอุปสมบทเข้าเข้ามาในทางพระพุทธศาสนา และได้มาอยู่จำพรรษาใกล้ชิดกับครูบาอาจารย์ที่เป็นมหาราชบัณฑิตและท่านนักปราชญ์ทั้งหลายในกรุงเทพฯ ตลอดจนถึงความเจริญก้าวหน้ามีเหตุมีผลได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศสั่งสอนไว้แล้วท่านยังได้มาอยู่ใกล้ชิดรับใช้พระอุปัชฌาย์จารย์ คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และยังมีพระเดชพระคุณเจ้าอีกหลายพระองค์ที่ประกอบด้วยสติปัญญาอันแหลมคมรอบตู่ในพระธรรมวินัย ท่านจึงได้นอบน้อมจดจำมาเป็นเยี่ยงอย่างใส่จิตใส่เกล้าของท่านมาตลอด


    หลวงปู่ศรีจันทร์  วณฺณาโภ ท่านได้มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544 สิริรวมอายุ ๙๗ ปี แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่พุทธศาสนิกชนยังให้ความเคารพนับถือมาก ดังนั้น วัดศรีสุทธาวาส และคณะศิษยานุศิษย์ ได้มีการจัดงานครบรอบวันมรณภาพของหลวงปู่ศรีจันทร์ประจำทุกปี

โอวาทธรรม  

     สมัยนี้เป็นสมัยที่โลกวุ่นวาย เนื่องมาจากเศรษฐกิจบ้างจากภัยต่าง ๆ มีโจรภัยบ้าง อุทกภัยบ้าง อัคคีภัยบ้าง และเกิดอุปัทวเหตุต่าง ๆ มีรถชนกันบ้างและจี้ ปล้น ข่มขืน เรียกค่าไถ่กันบ้างทำให้เกิดความหวาดเสียว สะดุ้งกลัว หาความสงบสุขได้ยาก จึงมีบางท่าน บางหมู่ บางเหล่า อยากแสดงหาธรรมะสำหรับปฏิบัติทำให้จิตใจสงบ เยือกเย็น เป็นสุข มีความสุภาพอ่อนโยน นิ่มนวล มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส น่ารัก ไม่อิจฉา ไม่พยาบาทใคร เปี่ยมไปด้วยพรหมวิหารธรรมเมื่อมีอุปสรรคหรืออันตรายเกิดขึ้นย่อมมีใจเข้มแข็งใช้สันติของตนโดยธรรม เอาชนะอุปสรรคหรืออันตรายเหล่านั้น ให้ผ่านพ้นไปโดยสวัสดี ถ้าเป็นผู้ปกครองเขาก็สามารถทำหมู่คณะของตนให้ปลอดภัยในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ

หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ.jpg
bottom of page