top of page

หลวงปู่แหวน  สุจิณฺโณ

วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
หลวงปู่แหวน  สุจิณฺโณ.jpg

ประวัติ

    หลวงปู่แหวน  สุจิณฺโณ เดิมชื่อ ญานหรือยาน  รามศิริ เกิดวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๐ วันจันทร์ขึ้น ๓ ค่ำปีกุน ณ บ้านนาโป่ง บ้างก็ว่าบ้านหนองบอน ตำบลหนองใน อำเภอเมือง จังหวัดเลย เป็นบุตรคนที่สองของนายใสหรือสาย นางแก้วรามศิริ ซึ่งมีพี่สาวร่วมท้องเดียวกัน ๑ คน


    เมื่อหลวงปู่อายุประมาณ ๕ ปี พอจำความได้บ้างมันดาก็ถึงแก่กรรมท่านจึงตกเป็นภาระของตากับยายต้องเลี้ยงดูต่อมา ท่านเกิดมาในตระกูลช่างตีเหล็กเมื่อมารดาถึงแก่กรรมบิดาไปแต่งงานใหม่อีกถึง ๓ คน ก่อนมารดาจะเสียชีวิตได้เรียกลูกชายคนเดียวของท่านเข้าไปหาใกล้ ๆ จับมือลูกชายแน่นแล้วกล่าวกับลูกชายว่า “ ลูกเอ๋ย แม่ยินดีต่อลูกสมบัติใด ๆ ในโลกนี้จะเป็นกี่ล้านกี่โกฏิก็ตามแม่ก็ไม่ยินดี แม่จะยินดีมากถ้าลูกจะบวชให้แม่ เมื่อลูกบวชแล้วให้ตายกับผ้าเหลืองไม่ต้องสึกออกมามีเมียมีลูกนะ”

   

    คำพูดของแม่ครั้งนั้นเป็นเหมือนพรสวรรค์คอยเตือนสติตลอดเวลา จนในที่สุดท่านก็ได้ออกบวชตามความประสงค์ของมารดา แม้จะมีอุปสรรคใด ๆ เข้ามาขัดขวางก็มีอันพ่ายแพ้พลังแห่งความปรารถนาของมารดา มันเป็นคำสั่งที่ก้องอยู่ในความทรงจำมิรู้เลือน
    

    จนกระทั่งอายุได้ ๙ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นวัดในละแวกนั้น พักอยู่วัดโพธิ์ชัยอีกหลายปีจึงได้เดินทางไปศึกษาอยู่ที่วัดบ้านสร้างถ่อใน อ.หัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี จนอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุฝ่ายมหานิกาย ที่วัดบ้านสร้างถ่อในนั้นเองโดยมีพระอาจารย์แว่นเป็นพระอุปัชฌาย์


    ครั้นวันอังคารที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ เวลา ๒๑.๕๓ น. การหายใจครั้งสุดท้ายก็มาถึงหลวงปู่ท่านได้และร่างอันเป็นขันธวิบากไปด้วยอาการอันสงบสิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี

โอวาทธรรม  

    หลวงปู่แหวน  สุจิณฺโณ ท่านได้แสดงธรรมโอวาทหลายเรื่อง เช่น

 
“การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่กามกิเลสนี้ร้ายนักมันมาทุกทิศทุกทางพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงก็ถอนได้”
“ กามกิเลสนี้แหละ เป็นบ่อเกิดแห่งการฆ่ากันตาย ชิงดีชิงเด่น กิเลสตัวเดียวทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงกัน ความรักความชังจะพึงเกิดขึ้นในจิตในใจเพราะกาม”
“ ตัดอดีตอนาคตลงให้หมด จิตดิ่งอยู่ในปัจจุ บันรู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน ทำในปัจจุบัน แจ้งอยู่ในปัจจุบัน”
“ ของเก่าปกปิดความจริง”
“ ของเก่าซึ่งไม่จีรังยั่งยืน จะต้องผุเน่าเปื่อยไปในที่สุด”
“ ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา ไม่มีความเพียร ไม่มีความสำเร็จ”

bottom of page