top of page

หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม

(พระครูสิริหรรสาภิบาล)

วัดป่าสามัคคีธรรม อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

ประวัติ

       พระครูสิริหรรสาภิบาล หรือ หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม ในสมัยเป็นฆราวาส ชื่อ เพ็ง น้อยก้อม เกิดเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ วันพฤหัสบดี บิดาชื่อ บัว มารดาชื่อ มื้ม นามสกุล น้อยก้อม มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๖ คน เป็นชาย ๒ และหญิง ๔ หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ ๓


    เมื่อหลวงปู่เพ็ง อายุได้ ๖ ขวบ ครอบครัวท่านได้อพยพไปทำมาหากินที่บ้านจานทุ่ง ตำบลปาฝา อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่จึงใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ที่นี่ ปัจจุบันอยู่ในท้องที่อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่ ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านจานทุ่งตามความประสงค์ของบิดามารดา และตั้งใจว่าเมื่อครบพรรษาก็จะสึกหาลาเพศออกมาแต่งงานกับแม่สาวคนรักตามที่หัวใจตนปรารถนา และด้วยความยินยอมของบิดา มารดาทั้งสองฝ่าย หลังจากบรรพชาแล้ว ที่บ้านจานทุ่งทุกเช้า ชาวบ้านจะมายืนรอใส่บาตพระภิกษุและสามเณรเป็นประจำ ในเช้าวันนั้น มีสามเณรหนุ่มชื่อ สามเณรเพ็ง เดินในลำดับท้ายสุดของแถวด้วยอาการสำรวม ครองจีวรใหม่เอี่ยม โกนผมเกลี้ยงเกลา ยังความปลาบปลื้มแก่บิดามารดา และญาติพี่น้องชาวบ้านจานทุ่งเป็นอย่างยิ่ง


    วันพุธที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม ได้ละสังขารที่สถาบันประสาทวิทยา โรงพยาบาลประสาทพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๕ เวลา ๒๑.๒๕ น. สิริรวมอายุได้ ๘๗ ปี ๖ เดือน ๗ วัน พรรษา ๓๖

โอวาทธรรม  

       “ขอให้ สติ เราดีเถิด จิตนี้หมายถึงความระลึกรู้ ทางดีก็รู้ ทางชั่วก็รู้ ความระลึกรู้นี้ท่านเรียกว่า จิต สิ่งอื่นต่างๆ ไม่เอามาเป็นอารมณ์ สิ่งใดก็ตาม ถ้าเข้ามารบกวนจิตใจต้องปล่อยทิ้งให้หมด ภาวนาไปเอาตัวรู้ไว้กับเราอย่างต่อเนื่อง”


    “จิต หรือ วิญญาณ ก็เป็นอันเดียวกัน เมื่อตาเห็นรูป รู้ดีรู้ชั่ว รู้สวยรู้ไม่สวย รัก-ไม่รัก สิ่งเหล่านี้มันลงมารวมที่จิต หู ได้ยินเสียงก็เหมือนกัน จมูกได้กลิ่นก็เหมือนกัน ลิ้นได้ลิ้มรสก็เหมือนกัน กาย ถูกสัมผัสก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่ต่อเนื่องมาจากประสาทสัมผัสทั้งหลายเหล่านี้ เรียกว่าวิญญาณ มันจะต่อเนื่องมาถึงใจ จึงเป็นเหตุพอใจ กับไม่พอใจเกิดขึ้น และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอาการของจิต ท่านจึงให้มีสติระลึกรู้ในอาการเคลื่อนไหวของจิตจิตเคลื่อนไหวไปต่อเนื่องกับอารมณ์ หรือสิ่งที่มากระทบการพิจารณาอย่างนี้แหละเรียกว่า จิตตานุปัสสนา เพราะเราตามรู้จิตที่เคลื่อนไหว มีสติรู้ตาม

หลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม(พระครูสิริหรรสาภิ
bottom of page