top of page

หลวงพ่อคำพอง ขันติโก

วัดป่าอัมพวัน อำเภอเมือง จังหวัดเลย

ประวัติ

       หลวงพ่อคำพอง ขันติโก แห่งวัดป่าอัมพวัน  เกิดในสกุลแสงจันทร์ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ที่บ้านชนบท ตำบลชนบท อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น โยมบิดา-มารดา ชื่อนายภูและนางทองมาก แสง  จันทร์ อายุ ๑๙ ปี ได้เข้าพิธีบรรพชา ณ พัทธสีมาวัดป่าธรรมวิเวก โดยมีพระครูศีลสังวราภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์  หลังจากบวชเป็นสามเณรแล้ว ได้อยู่จำพรรษาที่วัดป่าธรรมวิเวก จนอายุครบ ๒๑ ปี ถึงวัยต้องถูกคัดเลือกเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ปรากฏว่านายคำพองจับได้ใบดำ ไม่ต้องเป็นทหาร หลวงพ่อคำพอง บวชเป็นพระภิกษุสายธรรมยุต ได้ยึดหลักการในการปฏิบัติตนตามแบบอย่างหลวงปู่เสาร์ วัดเรียบ จังหวัดอุบลราชธานี


    แนวปฏิบัติของหลวงปู่เสาร์ คือ การอยู่คนเดียวให้รักษาจิต อยู่กลางมิตรให้รักษาวาจา และยึดถือแนวปฏิบัติของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นแนวปฏิบัติมาตั้งแต่ท่านบวช และออกธุดงค์มาโดยตลอด เมื่อครั้งออกธุดงควัตรในครั้งหนึ่ง หลวงพ่อคำพองได้นิมิตว่าได้นั่งบนธรรมาสน์ใหญ่ เทศนาให้พระเถระฟัง จึงได้ตั้งอธิษฐานเอาไว้ตั้งแต่บัดนั้นว่า จะครองตนในเพศบรรพชิตตลอดชีวิต

 
    ในการออกธุดงค์ของหลวงพ่อคำพอง ได้ท่องธุดงค์ขึ้นไปทางภาคเหนือบางครั้งข้ามไปประเทศพม่าและลาวในช่วงแรกจะอยู่ในภาคเหนือ ช่วงที่อยู่ภาคเหนือ หลวงพ่อคำพอง เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเจริญธรรม อ.สันป่าตอง, วัดห้วยน้ำริน อ.แม่ริน, วัดสันติบถ อ.แม่แตง, วัดช่อแฮ อ.แม่แตง, วัดสระหลวง อ.แม่ริน, วัดผาเด้น อ.แม่ริม เป็นต้น ในส่วนของภาคอีสาน ก่อนที่จะมาอยู่จำพรรษาที่ จ.เลย เมื่อออกจากทางภาคเหนือ ส่วนใหญ่หลวงพ่อคำพองจะอยู่ที่เชียงใหม่และลำปางก่อนย้ายไปจำพรรษาอยู่ทางภาคกลางระยะหนึ่งและเดินทางมาอยู่จำพรรษาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม สกลนคร รวมทั้ง ยังเคยไปจำพรรษาอยู่ที่วัดของหลวงปู่มั่นและอีกหลายวัดในภาคอีสาน


    หลวงพ่อคำพองรู้จักและสนิทสนมกับหลวงปู่ซามาอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอัมพวัน บ้านไร่ม่วง อ.เมืองเลย ปัจจุบันท่านมรณภาพไปนานแล้ว ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อคำพอง พร้อมด้วยหลวงปู่ซามา ได้พากันเดินทางไปที่วัดดอยแม่ปั๋ง เพื่อปฏิบัติและศึกษาธรรมกับหลวงปู่แหวน ต่อมา ได้พากันเดินทางกลับ จ.เลย หลวงปู่แหวน ได้มอบเงินมา ๔๐๐ บาท ให้มาแบ่งเป็นค่ารถคนละ ๒๐๐ บาท เพื่อเดินทางกลับ จ.เลย แต่หลวงพ่อคำพอง เดินทางท่องธุดงควัตรต่อไปในภาคกลางไม่ได้กลับจ.เลยพร้อมกับหลวงปู่ซามา ภายหลังหลวงปู่ซามา มรณภาพลง ญาติโยมที่บ้านไร่ม่วงและพระผู้ใหญ่ในจังหวัดเลย ได้นิมนต์หลวงพ่อคำพอง ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๓ ตราบจนถึงปัจจุบัน ตามที่หลวงปู่ซามาได้ฝากฝังเอาไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ 


    หลวงพ่อคำพอง เป็นพระนักปฏิบัติรูปหนึ่ง แม้ชื่อเสียงจะไม่โด่งดัง ด้วยความเป็นพระที่มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายและสงบแต่หลวงพ่อคำพอง เป็นพระเถระที่พุทธศาสนิกชนชาวเมืองเลย ให้ความเลื่อมใสศรัทธามาโดยตลอด 


    ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง หลวงปู่คำพอง มรณภาพด้วยโรคอัมพฤกษ์และโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สิริอายุ ๘๐ ปี พรรษา ๖๐

โอวาทธรรม  

       "ภาวนาทุกลมหายใจ นึกเมื่อไหร่ทำเมื่อนั้น ทำได้ไม่จำกัดเวลาทั้งกลางวันทั้งกลางคืน ภาวนาแล้วจะเห็นได้ในสิ่งที่ไม่เคยเห็น"


       “ มันสำคัญนะ บางทีบารมีผู้หญิงแก่กว่าผู้ชายก็มี ถ้าทำถูกทาง ทำไม่ถูกก็อย่างว่าละ บารมีบุญกุศลมันฝังในใจลึก กว่าจะสว่างขึ้นมามันยากอยู่ ถ้าได้ฟังเทศน์ฟังธรรมถูกจุดอย่างกับตะไล หรือเปิดเทปวิทยุนี่ละ เปิดมันก็ดังขึ้นกรรมมันปิดไว้ เหมือนอย่างบุญกุศล มันมีกิเลสปิดบัง กิเลสมาจากไหน ว่าจากอายตนะหก ภายนอกหก ภายในหก นี่ละปิดบัง ต่อมานิวรณ์ห้ามาครอบงำอีกเลยหนาแน่น อนุสัยก็หนาเข้าๆ ปิดบังเหมือนเขม่าปิดบังตะเกียงเจ้าพายุ มันไม่สว่าง เหมือนราหูปิดบังพระจันทร์นั่นละหากราหูออกไป พระจันทร์ก็สว่างแจ้งเลยอันนี้ก็เหมือนกัน จิตใจมันประมาทไม่ได้ ประมาทกันไม่ได้ อย่างคนทุกข์ คนจน พอได้ดีแล้ว โอ้ ดูหน้าไม่ได้ อายเขาไปดูหมิ่นเขาไว้นะนี่ละคนชั่วเขาจึงว่า ทำบาปก็ได้บุญดี ทำบุญก็ได้บุญดี นี่ละคนชั่วมันไม่รู้จักเหตุรู้จักผล พระเทศน์ว่าให้ทำดี มันว่าอ้าวทำดีก็ทำอยู่แต่ทำชั่วก็ให้ผลดีเหมือนกัน มันอ้างว่าอย่างนั้นนะพวกขี้เหล้า"

หลวงพ่อคำพอง  ขันติโก.jpg
bottom of page